บัวเต็งเบิ้ลมิลานต้อนพีเอสวี 3:0

 
บัวเต็งเบิ้ลมิลานต้อนพีเอสวี3:0ลิ่วแบ่งกลุ่มชปล.+คลิป

ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2013-14

รอบเพลย์ออฟ นัดสอง

วันพุธที่ 28 สิงหาคม 2556

เอซี มิลาน 3 : 0 พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 

รอบเพลย์ออฟ นัดสอง(นัดแรกเสมอ 1-1)

สนาม : ซานซิโร

ผู้ตัดสิน : มาร์ค แคล็ตแท่นเบิร์ก

นาทีที่ 8 พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นได้โอกาสลุ้นทำประตูก่อน จากลูกโหม่งของทิม มาตาฟซ์ คริสเตียน อับเบียติต้องพุ่งปัดทิ้งไป

นาทีที่ 9 "ปีศาจเเดง-ดำ"เอซี มิลาน ได้ประตูขึ้นนำ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ก่อน 1:0 จากลูกยิงไกลอันสุดสวยของเควิน-พรินซ์ บัวเต็ง.....
 .....
นาทีที่ 18 มาริโอ บาโลเตลลี่ได้ลองยิงไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลโด่งข้ามคานออกไป.....

นาทีที่ 20 อดัม มาเอร์ได้ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวา คริสเตียน อับเบียติต้องพุ่งปัดบอลทิ้งไป.....

นาทีที่ 30 เควิน-พรินซ์ บัวเต็งจ่ายบอลให้กับริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่หลุดขึ้นไปยิงด้านฝั่งขวา บอลหลุดเสาเเรกออกไป.....

นาทีที่ 39 ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่เปิดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวา มาให้กับมาริโอ บาโลเตลลี่โหม่งบอลหลุดเสาสองออกไป

นาทีที่ 47 มัตเตีย เด ชีโย่สกัดบอลไม่ขาด บอลเลยมาถึงจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุมได้โอกาสยิงไปตรงคริสเตียน อับเบียติทุบทิ้งออกไปได้

นาทีที่ 55 สเตฟาน เอล ชาราวีเปิดลูกเตะมุมฝั่งขวา มาให้กับฟิลิปป์ เม็กแซสได้โหม่ง ก่อนมาริโอ บาโลเตลลี่จิ้มบอลเข้าไปตุงตาข่าย เอซี มิลาน นำห่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 2:0 .....

นาทีที่ 75 มาริโอ บาโลเตลลี่ได้ลองยิงไกลจากเเถวสอง เยรูน ซูทต้องพุ่งปัดทิ้งไป.....

นาทีที่ 78 อันเดรีย โปลีไหลบอลจากด้านฝั่งขวา ให้กับเควิน-พรินซ์ บัวเต็งเติมเกมขึ้นมาด้านฝั่งซ้าย ก่อนจะยิงเสียบเสาสองเข้าไป เอซี มิลาน นำห่าง พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่นด้วยผลบอล 3:0 .....

จบเกม เอซี มิลาน เอาชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 3:0

รวมผลสองนัด "ปีศาจเเดง-ดำ"เอซี มิลาน เอาชนะ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น 4:1 ผ่านเข้าสู่รอบเเบ่งกลุ่มศึกยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2013-14 ได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เอซี มิลาน ระบบ 4-3-3 : .....
ผู้รักษาประตู : คริสเตียน อับเบียติ
กองหลัง : อินยาซิโอ อบาเต้,คริสเตียน ซาปาต้า,ฟิลิปป์ เม็กแซส,มัตเตีย เด ชีโย่
กองกลาง : ไนเจล เด ย็องก์,ริคคาร์โด้ มอนโตลิโว่,ซัลลีย์ อาลี มุนตารี่
กองหน้า : เควิน-พรินซ์ บัวเต็ง,มาริโอ บาโลเตลลี่,สเตฟาน เอล ชาราวี

พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ระบบ 4-3-3 : .....
ผู้รักษาประตู : เยรูน ซูท
กองหลัง : โยชัว เบรเน็ต,เจฟฟรี่ย์ บรูม่า,คาริม เรคิก,เยโทร วิลเล่มส์
กองกลาง : อดัม มาเอร์,สไตน์ ชาร์ส,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
กองหน้า : เมมฟิส เดปาย,ทิม มาตาฟซ์,ปาร์ค จี-ซอง

ส่วนผลคู่อื่น

เอซี มิลาน                   3 - 0     พีเอสวี
เรอัล โซเซียดาด            2 - 0     ลียง
มาริบอร์                       0 - 1     วิตอเรีย พิลเซ่น
เซลติก                       3 - 0     ชัคเตอร์ ซารากานดี้
เซนิตฯ                       4 - 2     ปากอส เฟเรยร่า

ฉกสะท้านโลก

 
ฉกสะท้านโลก

สัปดาห์ก่อน เชลซี เพิ่งจะปฏิบัติการ "ฉกสะท้านโลก" ด้วยการปาดซิวตัว วิลเลี่ยน ตัดหน้า สเปอร์ส ไปอย่างสุดเจ็บแสบทั้งที่นักเตะตรวจร่างกายเรียบร้อยจนจะลงเอยกับทีมคู่อริอยู่แล้ว

สัปดาห์นี้ เรอัล มาดริด กำลังจะถูกลูบคมบ้างแม้ระดับความใกล้เคียงในการได้ตัวนักเตะของพวกเขาจะยังเทียบกับกรณีของทางฝั่ง "ไก่เดือยทอง" ไม่ได้ก็ตาม

หลังมีรายงานว่าเป้าหมายที่พวกเขาเทียวไล้เทียวขื่อมานานอย่าง แกเร็ธ เบล กำลังจะถูก "ฉก"ไปต่อหน้าต่อตา และด้วยฝีมือของทีมไหนก็ไม่รู้ รู้แค่ว่า "ไม่อิดออด" และ "จ่ายให้เยอะกว่า"เท่านั้น

นี่ขนาดทีมลูกหนังระดับมาเฟียอย่าง "ราชันชุดขาว" ซึ่งพกพากิตติศัพท์ "อยากได้ใครต้องได้" ไปทั่วร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำยังโดนขนาดนี้ แล้วทีมอื่นๆ จะไปเหลืออะไร

วงการนี้ "ไม่มีสัจจะในหมู่โจร" และสเปอร์ส กับ เรอัล มาดริด ก็ไม่ใช่ 2 ทีมแรกในโลกที่โดนและกำลังจะโดนฉกกับ "พวกเขา" ด้วย

บาร์เซโลน่า :: เดวิด เบ็คแฮม

หลังเกิดคดี "สตั๊ดบิน" ซึ่ง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตกุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด บันดาลโทสะหวดสตั๊ดพุ่งเข้าหน้าอดีตปีกขวาพ่อลูกดกจนคิ้วแตกและกลายเป็นชนวน ให้มองหน้ากันไม่ติดถึงขั้นต้องแยกทางกันไป

โจน ลาปอร์ต้า ซึ่งลงสมัครชิงตำแหน่งประธาน "บาร์ซ่า" ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2003 เลยใช้โอกาสนี้เพิ่มคะแนนให้ตัวเองด้วยการขอซื้อตัว เบ็คแฮม มาร่วมทีม และ "ปีศาจแดง" ก็ ตกลงขายให้อย่างรวดเร็ว โดยถึงขั้นออกแถลงการณ์ว่าสามารถตกลงซื้อ-ขายกันได้แล้วด้วยเหลือแค่ให้ ยักษ์ใหญ่เมืองกระทิงตกลงสัญญาส่วนตัวกับนักเตะให้ได้เท่านั้น

ข้างฝ่าย "เจ้าบุญทุ่ม" จะเรียกว่าย่ามใจหรืออย่างไรไม่ทราบ พวกเขาสั่งพิมพ์เสื้อ "เบ็คแฮม" พร้อมสกรีนหมายเลข "7" วางขายในช้อปสโมสรเตรียมพร้อมรอไว้ทันที แต่เมื่อวันเปิดตัวมาถึง "เบ็คส์" ดันทะลึ่งเลือกย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด อริข้ามชาติของพวกเขาอย่างสุดช็อก

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ :: ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ

จัดว่าเข้าขั้นคลาสสิกอีกกรณีกับการฉกครั้งมหากาฬประหนึ่งกำลังนั่งดูหนัง สายลับทีเดียวเชียว หลัง สเปอร์ส ตกลงขาย เบอร์บาตอฟ ให้กับ แมนฯ ซิตี้ ไปแล้วด้วยราคากว่า 30 ล้านปอนด์ และในขณะที่ดาวยิงบัลแกเรียนลงจากเครื่องมาถึงสนามบินแมนเชสเตอร์ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ขับรถมารับพ่อค้าแข้งอาร์ตตัวพ่อไปเซ็นสัญญากันที่สโมสรทันที

ใช่!! อ่านไม่ผิดหรอกครับ ขรัวเฒ่าเลือดสกอตต์ สวมวิญญาณ ทอม ครูซ ในหนัง "มิสชั่น อิมพอสซิเบิล" ลงมือด้วยตัวเองในการฉกตัว "เบิร์บ" (ซึ่ง ณ เวลานั้นในปี 2008 เจ้าตัวถือว่าร้อนแรงมากๆ แม้ว่าสุดท้ายจะจากกันไม่สวยก็ตามที) 

ฝ่ายบริหาร "เรือใบสีฟ้า" คงได้แต่รออยู่ในออฟฟิศอย่างสงสัยว่าทำไม เบอร์บาตอฟ ยังไม่มาเสียที โดยหารู้ไม่ว่าขณะที่ "เฟอร์กี้" บึ่ง รถอยู่นั้น เจ้าตัวออกคำสั่งให้บอร์ดบริหารเจรจากับ สเปอร์ส เพื่อให้อีกฝ่ายยอมตกลงขายดาวยิงรายนี้ให้ได้ ก่อนจะได้บทสรุปในราคา 30.75 ล้านปอนด์ พร้อมแถม เฟรเซอร์ แคมป์เบลล์ หัวหอกดาวรุ่งให้ยืมใช้งานด้วยอีก 1 ราย  

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด :: จอห์น โอบี มิเกล

ใช่ว่าจะเคยแต่ฉกคนอื่นเขา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เคยโดนคนอื่นเขาฉกเอาบ้างเหมือนกัน แถมยังเป็นการฉกที่น่าจะแสบสันต์ที่สุดในพื้นพิภพอีกด้วย หากกรณี เบ็คแฮม กับ เบอร์บาตอฟ ได้สัก 3 กะโหลกเพราะเพิ่งจะแค่ตกลงค่าตัวกันได้ สูงขึ้นมาอีกหน่อย 4 กะโหลกกับ วิลเลี่ยน ซึ่งถึงขั้นตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อยกันไปแล้ว

ที่สุดก็ต้องคนนี้กับ มิเกล เอาไปเลย 5 กะโหลก ก็จะไม่ให้เรตขนาดนี้ได้อย่างไรในเมื่อแกเล่นเซ็นสัญญากับ"ปีศาจแดง" ไปแล้วด้วยซ้ำก่อนจะตีโพยตีพายอ้างว่าถูกบังคับให้เซ็นสัญญาทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากเลยแม้แต่น้อย

เซ็นสัญญาแถลงข่าวกันแล้วยังหนีไปได้

ทำให้กลายเป็น เชลซี ซึ่งเจ้าตัวอ้างว่าส่งเสียเลี้ยงดูเขาและครอบครัวมาตลอดในระหว่างเดินทาง มาทดสอบฝีเท้า ห้องเครื่องก้านยาวเลยต้องการจะย้ายไปอยู่กับสโมสรซึ่งมีบุญคุณกับเขา โดย "สิงห์บลูส์" ยอมจ่ายค่าเสียหายให้กับคู่แข่งร่วมลีกไป 12 ล้านปอนด์

ที่มา : http://football.sanook.com/

เสือใต้สะดุดไฟร์บวร์กตามเจ๊าท้ายเกม 1:1

 
เสือใต้สะดุดไฟร์บวร์กตามเจ๊าท้ายเกม1:1+คลิป

ฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน

ฤดูกาล 2013-14 นัดที่ 4

วันอังคาร 27 สิงหาคม 2556

ไฟร์บวร์ก 1 : 1 บาเยิร์น มิวนิค

สนาม : แมร์ช โซลาร์ สตาดิโอน

ผู้ตัดสิน : โฟลเรียน เมเยอร์

เริ่มเกมมานาทีที่ 33 "เสือใต้"บาเยิร์น มิวนิค บุกมานำ ไฟร์บวร์ก ก่อน 1:0 เมื่อโธมัส มุลเลอร์เปิดบอลจากด้านฝั่งขวา มาให้กับเซอร์ดาน ชาคิรี่พักบอลก่อนจะยิงบอลยัดเสาเเรกเข้าไปตุงตาข่าย

นาทีที่ 87 เซบาสเตียน ไฟรส์ บรรจงเปิดบอลจากด้านฝั่งขวา มาให้กับนิโคลาส์ โฮฟเลอร์ตัวสำองที่เปลี่ยนลงมาได้สอดมาเเปบอลจ่อๆเข้าไปตุงตาข่าย พร้อมกับเป็นประตูให้ ไฟร์บวร์ก ตามตีเสมอ บาเยิร์น มิวนิค มาเป็นผลบอล 1:1

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูได้เพิ่ม จบเกมบาเยิร์น มิวนิค บุกมาทำได้เพียงเสมอกับ ไฟร์บวร์ก 1:1 เเต่"เสือใต้"ยังคงนำเป็นจ่าฝูงศึกฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยผลงาน 4 นัด ชนะ 3 เสมอ 1 มี 10 คะเเนน ขณะที่ ไฟร์บวร์ก เเข่ง 4 นัด เสมอ 2 เเพ้ 2 มี 2 คะเเนน อยู่อันดับที่ 14


รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
ไฟร์บวร์ก ระบบ 4-4-2 :
ผู้รักษาประตู : โอลิเวอร์ เบามันน์
กองหลัง : คริสเตียน เกนท์เนอร์,ฟัลลู เดียกเน่,มัทธีอัส กินเตอร์,โอลิเวอร์ ซอร์ก
กองกลาง : ยูเลียน ชูสเตอร์,เกลสัน เฟอร์นันเดส,โยนาธาน ชมิด,เซบาสเตียน เคิร์ก
กองหน้า : คาริม เกเด้,เซบาสเตียน ไฟรส์

บาเยิร์น มิวนิค ระบบ 4-1-4-1 :
ผู้รักษาประตู : มานูเอล นอยเออร์
กองหลัง : ราฟินญ่า,ดาเนียล ฟาน บุยเต็น,ดานเต้ บอมฟิม,ดิเอโก้ คอนเทนโต้
กองกลาง : บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ - มาริโอ เกิทเซ่,โธมัส มุลเลอร์,โทนี่ โครส,เซอร์ดาน ชาคิรี่
กองหน้า : เคลาดิโอ ปิซาร์โร่

บุนเดสลีกา เยอรมัน/ ไฟร์บวร์ก 1 : 1 บาเยิร์น มิวนิค

ซันแฉ! ผีแปะราคาขายนานี่ 520 ล้าน

 
ซันแฉ! ผีแปะราคาขายนานี่ 520 ล้าน

ฟุตบอล : เดอะซัน แฉ ''ปีศาจแดง'' แปะราคาขาย นานี่ ไว้ที่ 520 ล้านบาท หลังได้รับความสนใจจากสโมสรจากอิตาลี โดยเฉพาะ ''ม้าลาย'' และ ''หมาป่าเหลือง-แดง''

เดอะ ซัน สื่อจอมแฉแห่งแดนผู้ดี รายงานข่าวว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จัดการปักป้ายตั้งค่าหัวขั้นต่ำของ หลุยส์ นานี่ ปีกทีมชาติโปรตุเกสของทีมไว้ที่ 13 ล้านยูโร (520 ล้านบาท) ในการย้ายออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หลังจากปีกอินดี้รายนี้ได้รับความสนใจจากสโมสรในศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี หลายต่อหลายทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

นานี่ ได้รับความสนใจจาก ยูเวนตุส และอาแอส โรม่า 2 สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลูกหนังแดนมะกะโรนี นอกจากนี้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรเงินถังแห่งศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ก็เป็นอีกหนึ่งทีมที่ตกเป็นข่าวกับดาวเตะจอมลีลารายนี้ หลังจากที่เจ้าตัวปฏิเสธการต่อสัญญาฉบับใหม่กับทัพ "ปีศาจแดง" ออกไป ซึ่งสัญญาปัจจุบันของเจ้าตัวเหลืออีกเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น

ทั้งนี้ นานี่ วัย 26 ปีย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2007 ด้วยค่าตัวสูงถึง 25.5 ล้านยูโร (1,020 ล้านบาท) โดยฤดูกาลที่ผ่านมาเจ้าตัวลงสนามรับใช้ต้นสังกัดไปทั้งสิ้นเพียง 17 นัด ยิงไป 4 ประตูด้วยกัน

เอาใจคนไทย ทรูคว้าสิทธิ์ ยิงสดบอลไทย 4 รายการ 3 ปี

 
ทรูคว้าสิทธิ์ ยิงสดบอลไทย 4 รายการ 3 ปี

ฟุตบอล : ทรูวิชั่นส์ คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสด โตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก, ยามาฮ่า ลีกวัน, ไทยคมเอฟเอ คัพ และ โตโยต้า ลีก คัพ 3 ปี วงเงิน 1,800 ล้านบาท

นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท ในฐานะผู้บริหารจัดการสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอลฯ และ นายองอาจ ประภากมล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการตลาด ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป

ร่วมกันแถลงข่าวการลงนามบันทึกความเข้าใจ หรือMOU) ว่า ทรูวิชั่นส์ คว้าสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโตโยต้า ไทยพรีเมียร์ลีก, ยามาฮ่า ลีกวัน, ไทยคมเอฟเอ คัพ และโตโยต้า ลีก คัพ เป็นเวลา 3 ปี (พ.ศ.2557-2559)

นายวรวีร์ กล่าวว่า การประมูลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดครั้งนี้ ใช้วิธีการสมัยใหม่ ที่มีความโปร่งใส และบริสุทธิ์ยุติธรรม โดยทีมงานมืออาชีพ ซึ่งได้เชิญ เซอร์เดวิด ริชาร์ด ที่ดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ มาดำเนินการ ซึ่งทรูวิชั่นส์ สามารถชนะคู่แข่งที่เข้าร่วม อีก 3 ราย

ด้าน นายองอาจ กล่าวว่า ทรูวิชั่นส์ ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 1,800 ล้านบาท สำหรับการคว้าสิทธิ์การถ่ายทอดสดในครั้งนี้ ส่วนในเรื่องรายละเอียดของการถ่ายทอดสด ว่าจะมีช่องทางใด หรือมีฟรีทีวีใด ร่วมเป็นพันธมิตรนั้น จะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง

ขณะที่ นายอดิศัย กล่าวถึง สิทธิประโยชน์ ที่ทางทีมต่างๆ จะได้รับจากการประมูลขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในครั้งนี้ ว่า 18 ทีม ในไทยพรีเมียร์ลีก จะได้รับเงินสนับสนุนจากการถ่ายทอดสด ทีมละ 20 ล้านบาท/ปี, ยามาฮ่า ลีกวัน 3 ล้านบาท/ปี และลีกภูมิภาค ทีมละ 1 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ภายหลังจากการประมูลขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดในประเทศแล้ว ยังได้มีการหารือเกี่ยวกับการขายลิขสิทธิ์ไทยลีก ไปยังต่างประเทศด้วย ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการเจรจา

ทั้งนี้ ในการแถลงข่าวยืนยันด้วยว่า ไม่ว่าผลการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ที่ส่อเค้ายืดเยื้อบานปลาย จะมีผลออกมาอย่างไร ก็จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงสิทธิ์ประโยชน์ และลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสด ที่ลงนามบันทึกความเข้าใจนี้แต่อย่างใด

แห่ลงที่มา : http://football.sanook.com/

“เรือใบ“ประเดิมดุไล่อัดนิวฯเละ 4-0 แซงผีรั้งจ่าฝูง

 
“เรือใบ“ประเดิมดุไล่อัดนิวฯเละ 4-0แซงผีรั้งจ่าฝูง

ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ

(นัดแรก ฤดูกาล 2013-14)

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2556

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4 - 0 นิวคาสเซิล

สนาม: เอติฮัด สเตเดี้ยม

ผู้ตัดสิน: อังเดร มาร์ริเนอร์

วิเคราะห์เริ่มเกมครึ่งแรก

ได้แค่ 3 นาที เจ้าบ้าน เรือใบสีฟ้า เกือบได้ประตูนำ เมื่อ เฆซุส นาบาส เปิดบอลให้ เซร์คิโอ อเกวโร่  ยิงจ่อๆไปติดขาของ ทิม ครูล นายทวารนิวฯ มาเข้าทาง ดาบิด ซิลบา ยิงซ้ำ แต่ก็ยังไปติดบล็อคของ ทิม ครูล ออกหลังไปอีก

น.6 เจ้าบ้านก็มาออกนำจนได้ เมื่อ เอดิน เชโก้ ได้บอลทางซ้ายก่อนเปิดมาโดน ทิม ครูล ปัดเข้าทาง ดาบิด ซิลบา โขกเหน่งๆ 1:0

น.10 นิวคาสเซิล มีโอกาสบ้าง จาก ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา จ่ายทะลุช่องให้ โยอัน กุฟฟร็อง สอดมายิงเข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นลูกล้ำหน้า ไปก่อนแล้ว

น.22 "เรือใบสีฟ้า" หนีห่างเป็น 2-0 จาก เอดิน เชโก้ จ่ายบอลให้ แซร์จิโอ อกูเอโร่ ซัดด้วยขวาระยะ 18 หลาผ่านมือ ทิม ครูล เข้าเสาไกลอย่างสวยงาม
    
และช่วงทดเจ็บครึ่งแรก สาลิกาดง เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ สตีเว่น เทย์เลอร์ ไปเจตนาใช้แขนฟาด อเกวโร่ "กุน  ผู้ตัดสินชักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที หมดครึ่งแรก แมนฯซิตี้ นำก่อน 2-0

เริ่มกมครึ่งหลัง

น.50  "เรือใบสีฟ้า" ก็มาได้ประตูที่สามจากลูกฟรีคิก ของ ยาย่า ตูเร่ ระยะ 19หลา เข้าประตูไปอย่างสวยงาม แมนฯซิตี้ นำห่าง 3-0

และนาทีที่ 75 เรือใบสีฟ้า มาได้ประตูที่สี่ เมื่อ ปาโบล ซาบาเลต้า จ่ายบอลขึ้นหน้าให้ เอดิน เชโก้ บอลไหลไปถึง ซามีร์ นาสรี่ กระชากเข้าเขตโทษแปเข้าไปให้ แมนฯซิตี้ นำด้วยผลบอล 4-0

น.86 เจ้าบ้านเกือบได้ลูกที่ 5 จากจังหวะที่ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ยิงเข้าไป แต่เป็นลูกล้ำหน้าไปแล้ว

จบเกม แมนฯซิตี้ เปิดบ้านถล่ม นิวคาสเซิ่ล 10 คน ไปแบบสบาย 4-0 ผงาดขึ้นนำเป็นจ่าฝูงแซงแมนยู ไปในนัดแรกของฤดูกาล


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้: โจ ฮาร์ท - ปาโบล ซาบาเลต้า, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี (กัปตันทีม), โจลีออน เลสค็อตต์, กาแอล กลิชี่ - เฆซุส นาบาส, ยาย่า ตูเร่, แฟร์นานดินโญ่, ดาบิด ซิลบา - เอดิน เชโก้, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน"
  
นิวคาสเซิ่ล: ทิม ครูล - มาติเยอ เดอบูชี่, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ (กัปตันทีม), สตีเว่น เทย์เลอร์, มาปู ย็องกา-เอ็มบีว่า - ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, ชีค ติโอเต้, มุสซ่า ซิสโซโก้, โฮนาส กูเตียร์เรซ - โยอัน กุฟฟร็อง, ปาปิสส์ ซิสเซ่

สมชื่อ!แฮปปี้วันปลื้มสิงห์ขย่มฮัลล์ประเดิมชัย

 
สมชื่อ!แฮปปี้วันปลื้มสิงห์ขย่มฮัลล์ประเดิมชัย

ฟุตบอล : สุขสมชื่อ! "แฮปปี้ วัน" ปลื้ม "สิงห์บลูส์" ประเดิมชัย ขย่ม "ฮัลล์" 2-0 เข้าใจแฟนๆ ยังรัก แต่จากนี้ขอให้สนับสนุนทีมและนักเตะให้มากๆ จะดีกว่า

โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้จัดการทีม เชลซี สโมสรชั้นนำแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยอมรับว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ตัดสินใจกลับมาคุมทีมในแดนผู้ดีอีกครั้ง หลังประเดิมสนามอย่างเป็นทางการในเกมลีกด้วยการเปิดบ้านเอาชนะ ฮัลล์ ซิตี้ น้องใหม่หน้าเก่า 2-0 เมื่อคืน 18 ส.ค. ที่ผ่านมา แต่ยังวอนแฟนๆ ว่าขอให้สนับสนุนสโมสรและนักเตะมากๆ จะดีกว่า

เจ้าของนาม "เดอะ แฮปปี้ วัน" กล่าวถึงเกมแรกในลอนดอนว่า "มันสุดยอด นี่คือสิ่งที่เราจะไม่ลืม มันทำให้ผมคิดว่า ผมคิดถูกแล้วที่กลับมา ผมคือส่วนหนึ่งของพวกเขา (แฟนๆ) ผมยินดีและมีความสุขมาก แต่ผมคิดว่า
เท่านี้ก็พอแล้ว ผมอยากให้ทุกคนสนับสนุนทีมด้วย อยากให้พวกเขาร้องเพลงเชียร์นักเตะ อยากให้สนับสนุน เชลซี ให้สุดๆ พอแล้วสำหรับ มูรินโญ่ ผมรู้ว่าคุณรักผม นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ผมถึงกลับมาที่นี่ และตอนนี้ได้เวลาที่ผมต้องทำเพื่อพวกเขาบ้างแล้ว"

อย่างไรก็ตาม หลังจากระบายความรู้สึกแล้ว กุนซือชาวโปรตุเกสไม่ลืมที่จะบอกถึงฟอร์มของลูกทีมว่า "ไม่ต้องสงสัยเลย เราสมควรได้รับชัยชนะ ครึ่งแรกเราเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก เรามีความตั้งใจสูง คุณภาพสูง  การเคลื่อนไหวดี แต่ครึ่งหลังก็ไม่เหมือนกัน เพราะครึ่งแรกเราทำไว้ดีมาก ความตั้งใจของทีมลดลง และเพราะหลายคนไปเล่นเกมทีมชาติมา"

"แต่ผมยินดีกับชัยชนะแล้ว ผมพอใจเพราะเราทำครึ่งแรกไว้ดีมาก ตัวสร้างสรรค์เกมของเรายอดเยี่ยมมาก ถ้าเรานำถึง 3-0 หรือ 4-0 ในครึ่งแรกผมก็จะไม่ประหลาดใจเลย" มูรินโญ่ ปิดท้าย

วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด - ดอร์ทมุนด์

 
วิเคราะห์บอล เรอัล มาดริด - ดอร์ทมุนด์

วิเคราะห์บอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก

เรอัล มาดริด - ดอร์ทมุนด์ .....

เวลา: 01.45 น.

สนาม: ซานติอาโก เบอร์นาบิว

ผู้ตัดสิน: ฮาวเวิร์ด เว็บบ์ (อังกฤษ)

ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เรอัล มาดริด ..... 

27 เม.ย. 56 ชนะ แอตเลติโก มาดริด 2-1 (เยือน) ลา ลีกา
24 เม.ย. 56 แพ้ ดอร์ทมุนด์ 1-4 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
20 เม.ย. 56 ชนะ เรอัล เบติส 3-1 (เหย้า) ลา ลีกา
14 เม.ย. 56 ชนะ แอธเลติก บิลเบา 3-0 (เยือน) ลา ลีกา
9 เม.ย. 56 ชนะ กาลาตาซาราย 3-2 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก

ดอร์ทมุนด์ 

27 เม.ย. 56 ชนะ ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ 2-1 (เยือน) บุนเดสลีกา
24 เม.ย. 56 ชนะ เรอัล มาดริด 4-1 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
20 เม.ย. 56 ชนะ ไมนซ์ 2-0 (เหย้า) บุนเดสลีกา
13 เม.ย. 56 ชนะ กรอยเธอร์ เฟือร์ธ 6-1 (เยือน) บุนเดสลีกา
9 เม.ย. 56 ชนะ มาลาก้า 3-2 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก

ผลการพบกันนัดแรก

24 เม.ย. 56 ดอร์ทมุนด์ 1-4 เรอัล มาดริด

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

6 พ.ย. 55 แชมเปี้ยนส์ลีก เรอัล มาดริด 2-2 ดอร์ทมุนด์
24 ต.ค. 55 แชมเปี้ยนส์ลีก ดอร์ทมุนด์ 2-1 เรอัล มาดริด
25 ก.พ. 46 แชมเปี้ยนส์ลีก ดอร์ทมุนด์ 1-1 เรอัล มาดริด
19 ก.พ. 46 แชมเปี้ยนส์ลีก เรอัล มาดริด 2-1 ดอร์ทมุนด์
15 เม.ย. 41 แชมเปี้ยนส์ลีก ดอร์ทมุนด์ 0-0 เรอัล มาดริด
1 เม.ย. 41 แชมเปี้ยนส์ลีก เรอัล มาดริด 2-0 ดอร์ทมุนด์

ความพร้อม-สภาพทีม ..... 

เรอัล มาดริด

คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ดาวเตะตัวความหวัง เรียกความฟิตกลับมาได้ทันลงช่วยทีมในเกมนี้ หลังเจ็บกล้ามเนื้อต้นขามาจากเกมแรกที่พบกัน จนต้องถูกพักไว้ในเกมลา ลีกานัดล่าสุด แต่ก็กลับมาลงซ้อมกับทีมอย่างเต็มตัวได้แล้วในวันจันทร์ .....

ส่วนอัลบาโร่ อาร์เบลัว แบ็กขวาทีมชาติสเปน พ้นโทษแบนรอบสองกลับมาแล้ว แต่คงจะไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้ เพราะมีปัญหาเจ็บหลังรบกวนอยู่ ขณะที่มาร์เซโล แบ็กซ้ายทีมชาติบราซิล ก็ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงต่อไป

เซร์คิโอ รามอส คงจะถูกขยับไปยืนแบ็กขวาอีกครั้ง และให้เปเป้ที่ถูกจับไปยืนเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางในเกมลีก ถอยมาเล่นเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับราฟาเอล วาราเน่อีกครั้ง .....  

ส่วนอังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นแค่ตัวสำรองในเกมแรกเพราะเพิ่งกลับจากไปเฝ้าเมียคลอด น่าจะเบียดแย่งตำแหน่งตัวขึ้นเกมรุกฝั่งขวาคืนมาจากลูก้า โมดริชได้ ..... 

ผู้เล่นบาดเจ็บ: อัลบาโร่ อาร์เบลัว, มาร์เซโล่

ความพร้อม-สภาพทีม

ดอร์ทมุนด์

เสือเหลืองต้องรอเช็กความฟิตของลูคัสซ์ พิสซ์เช็ค แบ็กขวาทีมชาติโปแลนด์ ซึ่งมีอาการเจ็บโคนขาหนีบรบกวนมาจากนัดแรกจนเล่นไม่จบเกม และเพิ่งกลับมาลงซ้อมเบาๆ ได้เท่านั้น แต่ก็มีชื่อร่วมเดินทางไปเตะนัดนี้ด้วย ..... 

ส่วน อิลคาย กุนโดกาน และ มาริโอ เกิตเซ่ สองมิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน ซึ่งมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย น่าจะคืนความฟิตกลับมาได้ทันลงมาเป็นกำลังสำคัญของทีมเช่นเดิม

เกมนี้แชมป์บุนเดสลีกาคงจะปรับทัพกลับมาใช้ผู้เล่นชุดเดียวกับนัดแรก หลังพักทีมยกแผงถึง 10 ตำแหน่ง ในเกมบุนเดสลีกานัดล่าสุด โดยมี มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ คนเดียวที่ได้ลงเล่นในเกมนั้นด้วย ..... 

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงตัวเก่ง ซึ่งเป็นฮีโร่ยิงเหมาเข่ง 4 เม็ดในนัดแรก จะยังเป็นตัวความหวังในแนวรุกของทีมเช่นเดิม โดยมี ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้ และ มาร์โก รอยส์ เป็นตัวปั้นเกมรุกริมเส้น

ผู้เล่นบาดเจ็บ: ลูคัสซ์ พิสซ์เช็ค

วิเคราะห์รูปเกม

มาดริดถึงกับเอ๋อรับทานมาจากเกมที่แล้ว หลังถูกดอร์ทมุนด์กะซวกไป 4 เม็ด แต่ก็ยังมีความหวังเล็กๆ มาจากหนึ่งประตูทีมเยือนที่ทำได้ แม้จะต้องยิงให้ได้ถึง 3 ลูก แต่ก็ไม่ถึงกับยากเกินไปสำหรับทีมที่มีเกมรุกคุณภาพอย่างราชันชุดขาว เกมนี้คงต้องดูว่าเกมรับของเสือเหลืองจะรับมือกับพายุเกมบุกของเจ้าถิ่นได้ดีแค่ไหน และต้องหวังใช้เกมรุกที่เฉียบขาดเช่นกันคอยตอบโต้ เพราะถ้ายิงได้ซักหนึ่งประตูก็จะเพิ่มโอกาสลุ้นทันที แต่เกมนี้ยังเชื่อว่ามาดริดที่กระดูกแข็งกว่ายังน่าจะเดินหน้าคว้าชัยได้ แต่จะเพียงพอให้ทีมผ่านเข้ารอบหรือไม่ยังต้องลุ้นกันอีกที ..... 

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

เรอัล มาดริด (4-2-3-1): ดิเอโก้ โลเปซ; เซร์คิโอ รามอส, ราฟาเอล วาราน, เปเป้, ฟาบิโอ โคเอนเทรา; ซามี่ เคดิร่า, ชาบี้ อลอนโซ่; อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสติอาโน่ โรนัลโด้; กอนซาโล่ อิกวาอิน
โค้ช: โจเซ่ มูรินโญ่ ..... 

ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1): โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์; ลูคัสซ์ พิสซ์เช็ค, เนเวน ซูโบติช, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, มาร์เซล ชเมลเซอร์; อิลคาย กุนโดกาน, สเวน เบนเดอร์; ยาคุบ บลาสซีคอฟสกี้, มาริโอ เกิตเซ่, มาร์โก รอยส์; โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
โค้ช: เจอร์เก้น คล็อปป์

ฮอตสกอร์: มาดริด ชนะ 3-1

ไม่น่าเลย...ซัวเรซ

 
ไม่น่าเลย...ซัวเรซ

ฟุตบอล : กระแสความแรงของศูนย์หน้าผลบอลดีเด่น ชอบกัด หลุยส์ ซัวเรซ ยังมีออกมาไม่หมด ล่าสุดยังคงยืนกรานพูดถึงสัญญาที่ผู้จัดการทีมเคยให้ไว้ว่าตนสามารถย้ายทีมได้ถ้า ลิเวอร์พูล ไม่ได้โควตา ไปเล่นแชมป์เปียนลีก

ลิเวอร์พูล ได้ทำการศึกษาข้อสัญญาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วว่าในต้นฉบับนั้น ไม่ได้ระบุไว้ว่าถ้าทีมไหนยื่นข้อเสนอเข้ามา 40 ล้านปอนด์จะสามารถซื้อ หลุยส์ ซัวเรซ ได้ทันที

แต่ในสัญญาระบุไว้เพียงว่า ถ้าทีมไหนที่ยื่นเข้ามา 40 ล้านปอนด์ขึ้นไปสามารถอณุญาติให้นักเตะได้คุยกับสโมสรที่ยื่นซื้อเข้ามาได้ แต่ราคาไม่ได้ตายตัวที่ 40 ล้านปอนด์

ทำให้ ซัวเรซ เริ่มออกมาเคลื่อนไหวให้สัมภาษณ์เชิงลบแก่สโมสร การกระทำครั้งนั้นทำให้เหล่าบรรดา หงส์เก่า หงส์ใหม่ เริ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม

เพราะแต่ละคนให้การสนับสนุน ซัวเรซ เสมอไม่ว่าจะทำผิดขนาดไหน แต่สิ่งที่ ศูนย์หน้าชอบกัดรายนี้กระทำคือ การไม่เห็นหน้าเพื่อนนักเตะและแฟนๆที่คอยสนับสนุนเขาอย่างเต็มที่

รวมถึงสโมสรที่เขายังคงใช้สวมใส่ซ้อมจนถึงทุกวันนี้ด้วย การย้ายทีมเป็นวิถีของนักฟุตบอล แต่การจวกต้นสังกัดมันก็ไม่ใช่วิถีของนักเตะเช่นกัน

คนที่ย้ายทีมไปดีๆกลับมาให้เขาชื่นชมก็มีถมไปเหล่า "เดอะค็อป" ไม่ได้โกรธเคือง ซัวเรซ ที่เขาจะย้ายทีมแต่พวกเขาไม่พอใจหนักในสิ่งที่ เหยิน ไม่เคยเห็นหัวคนที่ยืนอยู่เคียงข้างเวลาที่เขาลำบาก

ถึงการขาย ซัวเรซ จะเป็นประโยชน์กับทีมในการนำเงินมาเสริมทัพ วิน วิน ทั้งสองฝ่ายแต่การกระทำของเขาครั้งนี้มันยิ่งทำให้การต่อรองในตลาดดูแย่ลง

ถ้าเขาต้องการย้ายทำไมไม่ขึ้นบัญชีซะให้จบ ไม่ใช่ว่า ลิเวอร์พูล ไม่อยากขาย แต่เพียงไม่ต้องการยื่นฟันแหลมคมไปให้กับทีมที่แย่งตำแหน่งทอปโฟร์ในฤดูกาลหน้าอย่าง อาร์เซน่อล ต่างหาก

แต่ถ้าวันใดที่ทีมนอกลีกยื่นข้อเสนอมาไม่ต่ำกว่า 40 ล้านปอนด์ บวกกับพฤติกรรมแย่ๆของเขาในตอนนี้ ไม่ขายก็บ้าแล้วครับ

เรื่องโดย "sevenlovepeople"

 
หมาป่างาบแชร์วินโญ่320ล้านบ.เซ็น4ปี

ฟุตบอล : แชร์วินโญ่ โบกมืออำลา อาร์เซน่อล ได้ฤกษ์โยกซบ โรม่า สมใจเสียที ค่าตัว 8 ล้านยูโร (320 ล้านบาท) เซ็นยาว 4 ปี ร่วมงานโค้ชเก่า รูดี้ การ์เซีย

"หมาป่ากรุงโรม" อาแอส โรม่า ยอดทีมแห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประสบความสำเร็จในการคว้าตัว แชร์วินโญ่ กองหน้าทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ ของ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทีมชั้นนำจากเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เรียบร้อยแล้ว

ด้วยค่าตัวราว 8 ล้านยูโร (320 ล้านบาท) เซ็นสัญญาค้าแข้งเป็นเวลา 4 ปี โดยตัวนักเตะเดินทางถึงกรุงโรมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย

แชร์วินโญ่ วัย 26 ปี เริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งกับ เบเวเรน ทีมในลีกเบลเยียม ในปี 2005 จากนั้นในปี 2007 ย้ายมา เลอ มองส์ ซึ่งเวลานั้นยังอยู่บนเวทีลีก เอิง ฝรั่งเศส และอีก 2 ปีต่อมาย้ายไป ลีลล์ และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะนำทีมคว้าแชมป์ลีก เอิง และ เฟร้นช์ คัพ 2011 ก่อนถูก อาร์เซน่อล ดึงตัวมาร่วมทีมในปีเดียวกันนั้นด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ (400 ล้านบาท) แต่กลับโชว์ฟอร์มน่าผิดหวัง ด้วยผลบอลแค่ 11 ประตู จาก 63 นัด

ทั้งนี้ แชร์วินโญ่ จะได้หวนกลับมาร่วมงานกับ รูดี้ การ์เซีย อดีตเจ้านายเก่าที่ ลีลล์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งกุนซือทีม โรม่า

โด้ฟรีคิกงาม! ราชันซิวแชมป์อัดสิงห์ 3:1

 
โด้ฟรีคิกงาม! ราชันซิวแชมป์อัดสิงห์ 3:1

ฟุตบอล กินเนสส์ อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 2013 วัน พฤหัสบดี ที่ 8 สิงหาคม 2556 เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ชนะเชลซี 3-1 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซัดสองประตู

กินเนสส์ อินเตอร์เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ 2013
นัดชิงชนะเลิศ ที่ สหรัฐอเมริกา
วัน พฤหัสบดี ที่ 8 สิงหาคม 2556

เรอัล มาดริด 3 : 1 เชลซี

สนาม : ซัน ไลฟ์ สเตเดี้ยม, ไมอามี่, ฟลอริด้า, สหรัฐฯ
.....

เริ่มเกม เชลซีเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน นาทีที่ 3 เบนเซม่าได้ยิงด้วยซ้าย แต่เช็กยังปัดออกไปได้

นาทีที่ 14 โมดริช แทงบอลให้ มาเซร์โล่ หลุดไปดวลกับ เคฮิลล์ สับหลอกหนึ่งครั้งแล้วยิงลอดขา เคฮิลล์ บอลพุ่งเสียบมุม ปีเตอร์ เช็ก พุ่งเซฟไม่ทันเรอัล มาดริดขึ้นนำ 1:0

นาทีที่ 16 รามิเรส ทำชิ่งกับ ลูกากู หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ กาซิยาส ก่อนแข้งชาวบราซิเลี่ยนจะชิปข้ามหัว คาซิยาส เข้าไปอย่างสวยงาม เชลซีตีเสมอ 1:1.....

นาทีที่ 27 แลมพาร์ด ลองสับนอกกรอบ คาซิยาสปัดได้แล้วตามมาตะปบ ก่อนบอลเข้าเท้า ลูกากู

นาทีที่ 31 โรนัลโด้ ซัดฟรีคิกระยะ25 หลา บอลพุ่งเสียบคานบนเข้าไปอย่างสวยงาม รีลมาดริดขึ้นนำอีกครั้งผลบอล 2:1

นาทีที่ 45 ลูกากูเปิดเข้ามาหน้าประตูให้ แลมพาร์ด ปาดตามน้ำติด กาซิยาส เด้งออกมา แลมพาร์ด หวดซ้ำแต่วีดเพราะโดนดึงนิดหน่อยแต่กรรมการไม่ว่าอะไร ก่อนจบเกมครึ่งแรก .....

เริ่มครึ่งหลัง เรอัล มาดริดได้เขี่ยลูกเล่นบ้าง เปลี่ยน ดาเนี่ยล คาร์วาฆอล ลงมาแทน อัลบาโร่ อาร์เบลัว ส่วนทางเชลซีเปลี่ยน เฟอร์นานโด ตอร์เรส และ เควิน เดอ บรูย์น ลงมาแทน โรเมลู ลูกากู และ แฟร้งค์ แลมพาร์ด

นาทีที่ 47 อาซาร์ด ได้บอลโยกเข้ากลางแล้วยิงด้วยขวา คาซิยาส ต้องออกแรงปัดออกไป ..... 

นาทีทื่ 53 โอกาสตีเสมอของเชลซีอีกครั้งเมื่อ อาซาร์ด รับบอลไกลแหวกกองหลังหลุดเข้าไปยิง แต่ คาซิยาสออกมาปิดมุมตะปบบอลเอาไว้ได้

นาทีที่ 57 อิสโก้ โยนบอลจากกาบซ้ายมาหน้าประตูให้ โรนัลโด้ วิ่งสอดเข้ามาโขกเหน่งๆตุงตาข่าย เรอัล มาดริด หนีห่าง 3:1

นาทีที่ 60กว่าๆ เกมต้องหยุดชะงักลงเพราะ มีแฟนบอลเยาวชนวิ่งลงสนามมากอดโรนัลโด้ แต่ไม่มีเหตุการรุนแรงสามารถเล่นต่อได้

นาทีที่ 90 อังเคล ดิ มาเรีย ได้ฮาล์ฟวอลเล่ย์ด้วยซ้าย บอลเฉี่ยวเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงทดเจ็บ โรนัลโด้ เปิดไปหน้าประตูให้ โมราต้า ไขว้เข้าไปอย่างสวยงาม แต่เป็นลูกล้ำหน้าก่อน จบเกม เรอัล มาดริดคว้าแชมป์ ชนะเชลซีด้วยผลบอล 3:1 โรนัลโด้ซัด 2 ประตูครองดาวซัลโวประจำทัวร์นาเม้นท์ 3 ประตู .....  

สรุปอันดับรายการนี้

1.เรอัล มาดริด
2.เชลซี
3.เอซี มิลาน
4.แอลเอ กาแล็กซี่
5.บาเลนเซีย
6.เอฟเวอร์ตัน
7.อินเตอร์ มิลาน
8.ยูเวนตุส

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เรอัล มาดริด : ระบบ 4-5-1
ผู้รักษาประตู : อีเกร์ กาซิยาส
กองหลัง : อัลบาโร่ อาร์เบลัวน.43(ดาเนี่ยล คาร์วาฆอล น.46), เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่(นาโช่ น.74)
กองกลาง : ซามี เคดิร่า, ลูก้า โมดริช(คาร์เซมิโล่ น.74), เมซุต โอซิล, อิสโก้(โมราต้า น.85), คริสเตียโน่ โรนัลโด้
กองหน้า : คาริม เบนเซม่า(อังเคล ดิ มาเรีย น.69)
ผู้เล่นตัวสำรอง : ดิเอโก้ โลเปซ, คาร์เซมิโล่, โทมัส เมเทียส, ราฟาเอล วาราน, ฟาบิโอ โคเอ็นเทรา, กาก้า, ชาบี้ อลอนโซ่, ดาเนี่ยล คาร์วาฆอล, นาโช่, โมราต้า, อังเคล ดิ มาเรีย ..... 

เชลซี : ระบบ 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : ปีเตอร์ เช็ก
กองหลัง : บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่(เซซาร์ แอซปิลิกวยต้า น.74), แอชลี่ย์ โคล
กองกลาง : มาร์โก้ ฟาน กิงเคล(อังเดร ชูร์เล่ น.74), แฟร้งค์ แลมพาร์ดน.37(เควิน เดอ บรูย์น น.46) - รามิเรส(ไมเคิ่ล เอสเซียง น.74), ออสการ์(วิคเตอร์ โมเซส น.46), เอเด็น อาร์ซาร์ด ..... 
กองหน้า : โรเมลู ลูกากู(เฟอร์นานโด ตอร์เรส น.46)
ผู้เล่นตัวสำรอง : มาร์ค ชวาร์เซอร์, ไมเคิ่ล เอสเซียง, เฟอร์นานโด ตอร์เรส, ฆวน มาต้า, จอห์น โอบี มิเกล, วิคเตอร์ โมเซส, อังเดร ชูร์เล่, เควิน เดอ บรูย์น, เดมบ้า บา, เซซาร์ แอซปิลิกวยต้า, โทมัส คาลาส ..... 

ออสการ์ยิงอาร์ซาร์ซ้ำ! เชลซีเช็คบิลอินเตอร์ มิลาน 2-0

 
ออสการ์ยิงอาร์ซาร์ซ้ำ! เชลซีเช็คบิลอินเตอร์ มิลาน 2-0

ฟุตบอล : ออสการ์และเอแด็น อาซาร์ช่วยให้ สิงห์บูลส์เอาชนะงูใหญ่ ไปด้วยสกอร์ 2-0 ในศึกอินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยน คัพ 2013 
ศึกฟุตบอลอินเตอร์เนชันแนล แชมเปี้ยน คัพ 2013 เชลซี ของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ เก็บชัยชนะเหนืออินเตอร์ มิลานไป 2-0 จากการทำประตูของออสการ์ ดาวเตะเลือดแซมบ้า ในนาทีที่ 13 และ เอแด็น อาซาร์ จากลูกจุดโทษในนาทีที่ 28

ภาพจาก - http://www.chelseafc.com

เชลซี 2-0 อินเตอร์ มิลาน

ผู้สนับสนุน “ผลการวิเคราะห์บอล” โดย : http://football.sanook.com
เรียบเรียงโดย : วิเคราะห์บอล ดอท เน็ต

เนื้อหา “วิเคราะห์บอล” ที่เกี่ยวข้อง : วิเคราะห์บอล, วิเคราะห์บอลวันนี้, วิเคราะห์บอลคืนนี้, ข่าวฟุตบอล , ผลบอลพรีเมียร์ลีก, ผลฟุตบอลต่างประเทศ, ผลฟุตบอล, ผลฟุตบอลสด, ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก, ผลฟุตบอลวันนี้, ผลฟุตบอลอังกฤษ, ผลบอลล่าสุด