วันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

‘สโนว์เมสซี่‘เทพน้อยจุติ เด็ก8ขวบ ทำยักษ์ยุโรปแย่งรุมทึ้ง

‘สโนว์เมสซี่‘เด็ก8ขวบสุดเทพทำยักษ์ยุโรปแย่งรุมทึ้ง 
‘สโนว์เมสซี่‘เด็ก8ขวบสุดเทพทำยักษ์ยุโรปแย่งรุมทึ้ง
โผล่อีก!! 'นิว เมสซี่' รายล่าสุดกำเนิด หนนี้ฉายา 'สโนว์เมสซี่' อัจฉริยะลูกหนังอาร์เจนไตน์วัย 8 ขวบ เก่งเทพถึงขั้นยักษ์ใหญ่รุมทึ้งแย่งตัวกันให้ได้ แถม บีบีซี สนดึงร่วมทำสารคดี
โลกลูกหนังเตรียมได้ตื่นตาตื่นใจกับ "ลิโอเนล เมสซี่ คนใหม่" หลังมีการค้นพบไอ้หนูอัจฉริยะลูกหนังชาวอาร์เจนตินาวัย 8 ขวบ เคลาดิโอ กาเบรียล นันซูฟิล หรือ "สโนว์เมสซี่" ซึ่งมีฝีเท้าเก่งกาจเกินวัยจนทำให้ยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรปต้องแย่งกันล่าลายเซ็นไอ้หนูรายนี้ไปเข้าสังกัดให้ได้

เด็กน้อยจาก บาริโลเช ยอดเขาซึ่งโด่งดังจากเรื่องลานสกีหิมะรายนี้ได้รับความสนใจจากทั้งเชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล, ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า, เรอัล มาดริด, แอตเลติโก มาดริด, เอซี มิลาน และบาเยิร์น มิวนิค หลังคลิปสำแดงฝีเท้าของเจ้าตัวได้รับการเผยแพร่ลงบนโลกออนไลน์และตามสื่อต่างๆ

เดลี่ มิร์เรอร์ สื่อชื่อดังรายงานว่า "ครอบครัวของเขาได้ ซูเอโน่ โคมูนิเคชิโอเนส เป็นเอเย่นต์ให้เรียบร้อยแล้วเพื่อจะได้ย้ายมายังยุโรป หลังสโมสรใหญ่หลายแห่งให้ความสนใจอยากได้ตัวเขา แม้แต่ บีบีซี (สื่อระดับโลก) ยังวางแผนจะให้เขาเป็นส่วนหนึ่งในสารคดีเกี่ยวกับ เมสซี่ และดีเอโก้ มาราโดน่า เลย พวกเขาหวังจะเซ็นสัญญาให้ได้ก่อนคริสต์มาสนี้"
‘สโนว์เมสซี่‘เทพน้อยจุติ เด็ก8ขวบ ทำยักษ์ยุโรปแย่งรุมทึ้ง
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ชมคลิป..!! เกมแรกในสีเสื้อเอสพัลส์ของ ‘เมสซี่ เจ‘

ชมคลิป..!! เกมแรกในสีเสื้อเอสพัลส์ของ ‘เมสซี่ เจ‘ 
ชมคลิป..!! เกมแรกในสีเสื้อเอสพัลส์ของ ‘เมสซี่ เจ‘
ฟุตบอล : "เมสซี่ เจ" ประเดิมเกมอุ่นเครื่องกับ "ชิมิสึ เอสพัลส์" ทีมดังเจ ลีกสวยหรู หลังลงครบ 90 นาทีพาทีมเอาชนะแข้งเยาวชน 4-0..... 
..... .....
ชนาธิป สรงกระสินธุ์ ปีกดาวรุ่งของบีอีซี เทโรศาสน ลงสนามในเกมอุ่นเครื่องเป็นครั้งแรก หลังจากเดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับ ชิมิสึ เอสพัลส์ ทีมดังในเจลีก เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา..... 
โดย "เมสซี่ เจ" ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ที่ผสมกับตัวสำรอง ในตำแหน่งกองหน้า เอาชนะ ทีม 18 ปีของสโมสรไปได้ 4-0 ถึงแม้จะไม่มีชื่อเป็นผู้ทำประตู แต่เจ้าเจก็มีส่วนร่วมกับเกมค่อนข้างเยอะ มีจังหวะยิงประตูหลายครั้ง และได้ลงเล่นจนครบ 90 นาทีด้วย.....
ดาวรุ่งวัย 20 ปี ให้สัมภาษณ์หลังเกม ว่า ประทับใจกับฟอร์มของตัวเอง ถึงแม้จะไม่ได้ยิงประตูแต่ก็มีส่วนร่วมกับเกมเยอะ วันนี้ถูกจับไปเล่นกองหน้าตัวเป้าถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ได้เรียนรู้มากขึ้น หลังเกมโค้ชออกปากชมว่าทำผลงานได้ดี แฟนคลับที่ญี่ปุ่นก็ให้การสนับสนุนดีมาก ขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ ตนได้เข้าไปติดตามอยู่ตลอด เวลาที่เหลือก็จะพยายามเรียนรู้ให้มากที่สุด.....
สำหรับ ชนาธิป จะเทสต์แข้งกับเอสพัลส์จนถึงวันที่ 11 พฤศจิกายน เพราะมีภารกิจกับทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ที่ประเทศเมียนมาร์ ในเดือนธันวาคมนี้.....
"เมสซี่ เจ" ชนาธิป สรงกระสินธุ์
.....ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่..... 

วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556

งูพลิกนรก!ฉกฟิออฯดิ้น 2-1 ขยับรั้งรองฝูงกัลโช่

งูพลิกนรก!ฉกฟิออฯดิ้น2-1ขยับรั้งรองฝูงกัลโช่+คลิป 
งูพลิกนรก!ฉกฟิออฯดิ้น2-1ขยับรั้งรองฝูงกัลโช่+คลิป
วิเคราะห์บอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
วันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556
สนาม : จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า
ผู้ตัดสิน : เปาโล วาเลรี่ 
 2-1 ฟิออเรนติน่า




เริ่มเกมมาได้แค่นาทีเดียว อินเตอร์ เปิดเกมบุกทักทายก่อนทันที ยูโตะ นางาโตโมะ ขึ้นเกมรุกทางฝั่งซ้าย ก่อนลากตัดเข้ามายิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเข้าเสาแรก แต่ เนโต้ พุ่งรับไว้ได้

น.11 เกมยังคู่คี่สูสีกันอยู่ในช่วงต้น ฝั่ง ฟิออ ได้โอกาสลุ้นครั้งแรก จูเซ็ปเป้ รอสซี่ รับบอลต่อจาก ฆัวกิน ก่อนกระชากเข้าเขตโทษ แล้วกดด้วยขวามุมแคบ ฮันดาโนวิช ต้องออกแรงปัด

น.14 เจ้าถิ่นได้จังหวะสวนกลับเร็ว จากจังหวะที่ ฮวน เฮซุส ตัดบอลได้จากแดนกลาง ก่อนพาบอลขึ้นหน้า แล้วถ่ายออกฝั่งซ้ายให้ ซาฟีร์ เทแดร์ ตัดสินใจยิงมุมแคบ บอลเข้าข้างตาข่าย ทั้งที่มีเพื่อนร่วมทีมยืนรอบอลอยู่อีกฝั่งถึง 2 คน

น.21 เกมสวนกลับเร็วของ ฟิออ ทำได้ค่อนข้างน่ากลัว ได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะที่ รอสซี่ จ่ายบอลทะลุช่องขึ้นทางขวาให้กับ ฆัวกิน แตะบอลหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนกดด้วยขวาเต็มข้อ ติดเซฟ ฮันดาโนวิช ออกหลัง

น.27 ฟิออ ที่เตรียมตัวมาดีในเกมนี้ ได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากเกมริมเส้นฝั่งขวาของ ฆัวกิน ที่กระชากเข้าเขตโทามายิงมุมแคบ บอลถากเสาไกลออกไปนิดเดียว

น.36 ทีมเยือนจำเป็นต้องเปลี่ยนผู้เล่นกะทันหัน เมื่อ มานูเอล ปาสกวาล แบ็กซ้ายกัปตันทีมได้รับบาดเจ็บต้นขาเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง มาร์กอส อลอนโซ่ ลงสนามแทน

หมดครึ่งแรก ยังเสมอกันอยู่ที่ผลบอล 0-0

ครึ่งหลัง ยังไม่มีทีมใดเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น เริ่มมาถึงนาที 50 อินเตอร์ ได้โอกาสลุ้นก่อน จากจังหวะที่ เฟรดี้ กัวริน ตั้งป้อมซัดด้วยขวาเต็มข้อหน้าเขตโทษ บอลพุ่งเกือบเสียบเสา เนโต้ ลอยตัวปัอทิ้งออกหลัง

น.57 อินเตอร์ ที่ยังต่อบอลกันได้ไม่ถนัดได้จังหวะหวาดเสียว โรดริโก้ ปาลาซิโอ ลากบอลตัดจากริมเส้นฝั่งซ้ายมากดด้วยขวาหน้าเขตโทษ บอลโด่งข้ามคานออกไป

น.60 กองเชียร์เจ้าถิ่นช็อคทั้งสนาม เมื่อ ฟิออ มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ฮวน เฮซุส ไปเหนี่ยว ฆัวกิน ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเล ให้ใบเหลือง เฮซุส พร้อมมอบจุดโทษให้ทีมเยือน ก่อนที่ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ จะยิงเสียบมุมเข้าไป ให้ ฟิออ ออกนำ 1-0

น.72 ขุนพล "งูใหญ่" พยายามเดินเกมบุกหวังทวงประตู กระทั่งประสบผล จากลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย มาเตโอ โควาซิช เปิดเข้าเขตโทษ แนวรับทีมเยือนเคลียร์กันไม่ขาด ก่อนที่ อูโก้ คัมปันญาโร่ จะโหม่งชงให้ กัมบิอัสโซ่ พักอกหนึ่งจังหวะแล้วกระโดดจักรยานอากาศด้วยซ้าย บอลพุ่งเสียบเสาแรกอย่างสวยงาม ให้ อินเตอร์ ตีเสมอ 1-1

น.80 เกมของ ฟิออ มาคึกคักอีกครั้ง เกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ บอร์ฆา บาเลโร่ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจ่ายเรียดข้ามมาอีกฝั่งให้ โจซิป อิลิซิช กองหน้าตัวสำรอง ได้กดด้วยซ้ายเน้นๆ บอลพุ่งไปตรงตัว ฮันดาโนวิช ทุบทิ้งออกไปได้

น.83 เสียงเฮลั่น จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า อีกครั้ง เมื่อ อินเตอร์ มาได้ประตูพลิกแซงขึ้นนไปด้วยผลบอล 2-1 จากจังหวะที่ ริคกี้ อัลวาเรซ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าเขตโทษ บอลเลยไปถึง โชนาธาน ที่เสาสองดูดบอลลงหนึ่งจังหวะ ก่อนยิงยัดด้วยขวา บอลพุ่งแสกหน้า เนโต้ เข้าไปอย่างสุดสวย

เวลาที่เหลือ ไม่มีทีมใดทำประตูได้ จบเกม 90 นาที อินเตอร์ เฉือนเอาชนะ ฟิออเรนติน่า ไปสุดมัน 2-1 เก็บ 3 แต้มเต็ม ขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูง มีอยู่ 13 คะแนน ตามหลัง โรม่า อยู่ 2 แต้ม ส่วน ฟิออ ยังรั้งอันดับ 5 มี 10 คะแนนเท่าเดิม

รายชื่อผู้เล่น อินเตอร์ มิลาน
ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช - โชนาธาน (น.85 อัลวาโร่ เปไรร่า น.85), อันเดรีย ราน็อคเคีย, ฮวน เฮซุส, ยูโตะ นางาโตโมะ - อูโก้ คัมปันญาโร่, เฟรดี้ กัวริน (เมาโร อิคาร์ดี้ น.67), เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ - ริคาร์โด้ อัลวาเรซ, ซาฟีร์ เทแดร์ (มาเตโอ โควาซิช น.60), โรดริโก้ ปาลาซิโอ

รายชื่อผู้เล่น ฟิออเรนติน่า
เนโต้ - เนนาด โทโมวิช, กอนซาโล่ โรดริเกซ, สเตฟาน ซาวิช, มานูเอล ปาสกวาล (มาร์กอส อลอนโซ่ น.36) - มัสซิโม่ อัมโบรซินี่, บอร์ฆา บาเลโร่ - ฆัวกิน ซานเชซ, อัลแบร์โต้ อาควิลานี่ (มาเธียส เวซิโน่ น. 78), มาติอัส แฟร์นานเดซ - จูเซ็ปเป้ รอสซี่ (โจซิป อิลิซิช น.69)

คลิป : อินเตอร์ มิลาน 2-1 ฟิออเรนติน่า

วันอังคารที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2556

ปืนเผยผลประกอบการฟันกำไร 335 ล้านบาท

ปืนเผยผลประกอบการฟันกำไร335ล้านบาท
ฟุตบอล : ทุนนิยม! ''ปืนใหญ่'' แบผลประกอบการฤดูกาลที่แล้วต่อสาธารณะชน ปรากฎว่า ฟันกำไรเข้ากระเป๋า 335 ล้านบาท

อาร์เซน่อล สโมสรจ่าฝูงแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดเผยผลประกอบการของสโมสรในฤดูกาล 2012-2013 ที่ผ่านมา โดยพลพรรค "เดอะ กันเนอร์ส" ยังคงมีสถานะการเงินที่ยอดเยี่ยม
ซึ่งปีที่ผ่านมาฟันกำไรเข้ากระเป๋าได้ 6.7 ล้านปอนด์ (335 ล้านบาท) โดยจากสถิติบ่งบอกว่า "ปืนใหญ่" ได้เงินจากการขายนักเตะออกจากทีมไปถึง 47 ล้านปอนด์ (2,350 ล้านบาท) เลยทีเดียว

บอร์ดบริหารของ อาร์เซน่อล เปิดเผยถึงตัวเลขผลประกอบการเมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดย อาร์แซน เวนเกอร์ ใช้งบประมาณกับผู้เล่นหน้าใหม่ไปถึง 58.7 ล้านปอนด์ (2,935 ล้านบาท) ซึ่งใช้เป็นค่าตัวของ เมซุต โอซิล จำนวน 42.5 ล้านปอนด์ (2,125 ล้านบาท) พร้อมทั้งยังลงทุนไปกับการขยับเพดานค่าเหนื่อยของผู้เล่นสำคัญในทีมไปถึง 41.3 ล้านปอนด์ (2,065 ล้านบาท) นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ยังมีรายรับจากกิจกรรมทางการตลาดสูงถึง 242.8 ล้านปอนด์ (12,140 ล้านบาท)

ด้าน เซอร์ ชิพ เคสวิก บอร์ดบริหารของ "เดอะ กันเนอร์ส" กล่าวถึงผลประกอบการของสโมสรในครั้งนี้ว่า "พวกเราต้องทำให้สโมสรเติบโตในเชิงพาณิชย์สำหรับโอกาสที่ดีที่สุดของสโมสรที่จะประสบความสำเร็จ และพวกเราต้องทำในแนวทางที่ยังคงดำรงคุณค่าที่แท้จริงของสโมสร และจะทำให้เรามั่นใจและรักษาความยั่งยืนในระยะยาวของสโมสรแห่งนี้"

"พวกเราพบกับการแข่งขันระหว่างทีมชั้นยอดของพรีเมียร์ลีกและทีมมหาเศรษฐีของยุโรป ซึ่งเป็นงานที่หนัก แม้ว่าจะมีการเริ่มนำกฎไฟแนนเชียลแฟร์เพลย์มาใช้ รวมถึงนโยบายในการกำหนดราคาจะมีความเข้มข้น แต่ค่าใช้จ่ายสำหรับค่าเหนื่อยนักเตะก็ยังสูงขึ้นๆ ดังนั้น มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเราที่มีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง ซึ่งเราได้พยายามสร้างในหลายๆ ปีที่ผ่านมา และจะทำให้เราก้าวต่อไปและสามารถแข่งขันได้ในระดับสูงสุด"
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันจันทร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2556

โด้ซัดสอง!ชุดขาวเปิดรังยำเคตาเฟ่ 4-1

โด้ซัดสอง!ชุดขาวเปิดรังยำเคตาเฟ่4-1 
โด้ซัดสอง!ชุดขาวเปิดรังยำเคตาเฟ่4-1

ฟุตบอลลา ลีกา สเปน

วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556

เรอัล มาดริด 4-1 เคตาเฟ่ 

สนาม: เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว)

ผู้ตัดสิน: ดาบิด เฟร์นานเดซ บอร์บาลาน 


น.4 ทีมเยือนได้เฮก่อน โรนัลโด ไปหยุดเล่นนึกว่าจะได้ฟาล์ว แต่กรรมการปล่อยให้เล่นต่อ ก่อนที่ อังเกล ลาฟิตา ฉกไปยิง ให้เกตาเฟขึ้นนำ 1-0 

น.18 มาดริด ตามตีเสมอได้จากฟรีคิกให้ โรนัลโด ยิงติดเซฟ แต่เข้าทาง เปเป้ ตามซ้ำไม่พลาดไล่มาเป็น 1-1
       
น.33 จากฟรีคิกของ โรนัลโด้ กลางประตูบอลไปติดแขนของ มิเชล ที่ยืนเป็นกำแพง ผู้ตัดสินเป่าเป็นแฮนด์บอล เจ้าตัวรับหน้าที่สังหารไม่พลาด  พลิกนำ 2-1 
       
น.59 โรนัลโด้ เล่นเร็วให้ อิสโก้ ลากเข้ามายิงล่อเป้าซุกตาข่ายเสาสอง ให้ทีมนำห่าง 3-1

ช่วงทดเวลา มาดริด มาได้ลูกที่4 จากจังหวะที่ ซามี เคดิร่า เปิดจากกรอบเขตโทษด้านขวาเข้ากลางให้ โรนัลโด้ ไขว้บอลเข้าประตูไป "ราชันชุดขาว" นำขาดไปด้วยผลบอล 4-1


รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เรอัล มาดริด: ดีเอโก้ โลเปซ - ดาเนียล การ์บาฆาล, เปเป้, นาโช่ เฟร์นานเดซ, อัลบาโร่ อาร์เบลัว - ซามี เคดิร่า, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ (ลูก้า โมดริช น.77) - อังเคล ดิ มาเรีย, อีสโก้ (เฆเซ่ โรดริเกซ น.84), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า (อัลบาโร่ โมราต้า น.80)
     

เคตาเฟ่: มิเกล อังเคล โมย่า - อเล็กซิส รูอาโน่, อัลบาโร่ อาร์โรโย่ (ราฟา โลเปซ น.70), ลิซานโดร โลเปซ, เซร์คิโอ เอสกูเดโร่ (โรเบร์โต้ ลาโก้ น.46) - เปโดร มอสเกวร่า, มิเชล มาเดร่า - อังเคล ลาฟีต้า (ปาโบล ซาราเบีย น.45+1), เปโดร เลออน, ดีเอโก้ กาสโตร - นิโคลัส เฟดอร์ "มิกู"

ส่วนผลคู่อื่น

บาเลนเซีย         3 - 1         เซบีย่า    
เรอัล เบติส        0 - 0         กรานาด้า    
เซลต้า บีโก้       0 - 0         บียาร์เรอัล
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันศุกร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556

10 ทรงผมสุดบ้าของนักเตะ

10 ทรงผมสุดบ้าของนักเตะ 
10 ทรงผมสุดบ้าของนักเตะ
ฟุตบอล : ถ้าหากพูดถึงการจดจำนักเตะสักคนหนึ่งอาจจะเป็นการพูดถึงในด้านเทคนิคการเล่นฟุตบอลเป็นส่วนใหญ่
แต่ยังมีเอกลักษณ์อีกอย่างที่ทุกคนไม่ค่อยจะพูดถึงคือทรงผม วันนี้จะหยิบยก 10 ทรงผมสุดบ้าของนักเตะมาให้ชมกัน





โรดริโก้ ปาลาซิโอ - ไว้ผมเปีย 1 เส้นที่บริเวณตรงกลางหลังศรีษะ



สเตฟาน เอล ชาราวี่ - อาจจะไม่ใช่ทรงโมฮอว์กซะทีเดียวแต่มันคล้ายกับตัวเม่น




เดวิด เบ็คแฮม - ในตอนนั้นเขาไว้ผมยาวแต่ว่าทักผมให้กลายเป็นผมสั้นแทน




โจ โคล - ไว้เพียงแค่ผมตรงกลางเท่านั้นและปล่อยข้างหลังให้ยาวก่อนที่จะย้อมเป็นสีแดง




แชร์วินโญ่ - อาจจะไม่ใช่ทรงผมที่ตั้งใจสักเท่าไหร่ เมื่อเขามีทรงผมที่เปิดให้เห็นส่วนใหญ่ของหน้าผาก   




คาร์ลอส วัลเดอร์ราม่า - เขาไว้ทรงผมจนฟูและย้อมให้เป็นสีบลอนด์อาเบล




ซาเวียร์ - แทนที่จะย้อมเพียงแค่สีผมเท่านั้น แต่กลับไปย้อมที่เคราของตัวเองให้เป็นสีบลอนด์ด้วย 

  

โรนัลโด้ - เขาไว้ผมแค่ด้านหน้าของศรีษะเท่านั้น ส่วนด้านอื่นๆเขาตัดจนเกรียนไปเลยฌิบริล
ซิสเซ่ - คราวนี้เจ้าตัวกับทรงโมฮอว์กสั้นๆแต่ก็ย้อมด้วยสีเขียวสว่าง

ตาริโบ เวสต์ - เจ้าตัวมัดแกละไว้บนศรีษะถึง 2 แกละ

วันพฤหัสบดีที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2556

เซโก้เบิกร่องเรือเเรงท้ายบุกถล่มพิลเซ่น 3 - 0

เซโก้เบิกร่องเรือเเรงท้ายบุกถล่มพิลเซ่น 3 - 0 
เซโก้เบิกร่องเรือเเรงท้ายบุกถล่มพิลเซ่น 3 - 0
ฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2013-14
กลุ่ม D นัดเเรก
วันอังคารที่ 17 กันยายน 2556
สนาม : ดูซาน อารีน่า
เวลา : 01:45
 0 - 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้



ครึ่งแรก

เริ่มเกมมาเเค่ 6 นาที "เรือใบสีฟ้า"เเมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้โอกาสลุ้นก่อนจากลูกยิงไกลของ เฆซุส นาบาส เเต่บอลถูกมาทุส โคซาชิคปัดทิ้งไปได้

นาทีที่ 20 พาเวล โฮวาธได้ยิงฟรีคิกด้วยเท้าซ้าย โจ ฮาร์ทต้องออกเเรงทุบทิ้งไปจากเส้นปากประตู

นาทีที่ 23 ปาโบล ซาบาเลต้าเปิดบอลจากด้านริมเส้นฝั่งซ้าย ให้กับ เอดิน เชโก้ได้โหม่งมาทุส โคซาชิคปัดทิ้งออกจากเส้นปากประตู

นาทีที่ 25 เซอร์คิโอ อเกวโร่ได้ยิงบอลไปชนะเสากระดอนมาเข้าทางอเล็กซานเดอร์ โคลารอฟได้ยิงอีกครั้งไปตรงมาทุส โคซาชิครับเอาไว้ได้

นาทีที่ 45 ซอร์คิโอ อเกวโร่ได้โอกาสพลิกตัวยิงจากนอกกรอบเขตโทษ มาทุส โคซาชิคพุ่งรับเอาไว้ได้


ครึ่งหลัง

เริ่มเกมครึ่งหลังมาเเค่ 3 นาที เซอร์คิโอ อเกวโร่ จ่ายบอลจากด้านฝั่งซ้าย ให้กับเอดิน เชโก้ได้บรรจงยิงบอลผ่านมือมาทุส โคซาชิคเข้าไปตุงตาข่าย พร้อมกับเป็นประตูให้ เเมนฯ ซิตี้ บุกมานำ วิคตอเรีย พิลเซ่น 1:0

นาทีที่ 53 เเมนฯ ซิตี้ หนีห่าง วิคตอเรีย พิลเซ่น 2:0 จากลูกยิงไกลด้วยเท้าขวาอันสุดสวยของยาย่า ตูเร่

นาทีที่ 58 ซามีร์ นาสรี่ไหลบอลจากด้านริมเส้นฝั่งขวา ให้กับ เซอร์คิโอ อเกวโร่ได้พลิกยิงบอลเสียบเสาสองเข้าไปตุงตาข่าย เเมนฯ ซิตี้ หนีห่าง วิคตอเรีย พิลเซ่นไปด้วยผลบอล 3:0


รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

วิคตอเรีย พิลเซ่น ระบบ 4-4-2 :
ผู้รักษาประตู : มาทุส โคซาชิค
กองหลัง : ราดิม เรซนิค,วาคลาฟ โพรชาซก้า,มาเรียน ชิซอฟสกี้,ดาวิด ลิมเบอร์สกี้
กองกลาง : โทมัส โฮราว่า,พาเวล โฮวาธ,ฟรานทิเซ็ค ไรจ์โทรัล,แดเนี่ยล โคลาร์,แยน โควาริค
กองหน้า : บากอส

แมนฯ ซิตี้ ระบบ 4-4-2 :
ผู้รักษาประตู : โจ ฮาร์ท
กองหลัง : ปาโบล ซาบาเลต้า,มาติย่า นาสตาซิช,แว็งซ็องต์ ก็องปานี,อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ
กองกลาง : เฆซุส นาบาส,แฟร์นานดินโญ่,ยาย่า ตูเร่,ซามีร์ นาสรี่
กองหน้า : เอดิน เชโก้,เซอร์คิโอ อเกวโร่


คลิป : วิคตอเรีย พิลเซ่น 0 - 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่