วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

ผีแชมป์20สมัย! ถล่ม วิลล่า 3-0 RVP แฮตทริก


ผีแชมป์20สมัย! ถล่ม วิลล่า 3-0 RVP แฮตทริก 
ผีแชมป์20สมัย! ถล่ม วิลล่า 3-0 RVP แฮตทริก
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 
วันจันทร์ที่ 22 เมษายน 2556


 แมนฯ ยูฯ 3-0 แอสตัน วิลล่า 



สนาม: โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ผู้ตัดสิน: แอนโธนี่ เทย์เลอร์




แมนฯ ยูไนเต็ดคงจะจัดหนักในนัดนี้เพื่อจะได้ฉลองแชมป์สมัยที่ 20 ได้เลย หลังจากแมนฯ ซิตี้ ช่วยแพ้รอให้แล้วในเกมวันอาทิตย์ ทำให้ 3 คะแนนนัดนี้จะส่งผีสู่บัลลังก์ทันที
แต่วิลล่าที่ยังต้องดิ้นหนีตายต่อไปก็คงมาสู้เต็มที่ อย่างน้อยก็คงต้องขอหยิบหนึ่งแต้มไว้ก่อน หรือถ้าพลาดท่าเสียทีก็คงเปิดเกมสู้แน่
นัดนี้ผีไม่เน้นสกอร์เน้นแค่ผล น่าจะเล่นแบบไม่เครียดมากและด้วยศักยภาพแล้วน่าจะเดินหน้าคว้าชัยชนะครั้งสำคัญได้สำเร็จ
เริ่มครึ่งแรก นาทีที่ 2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ วิลล่า 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ไรอัน กิ๊กส์ ได้จังหวะทำเกมบุกทางฝั่งซ้าย ปาดบอลเข้ากลางประตูให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซัดบอลจ่อๆที่เสาสองเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 10 ผีแดง เปิดเกมบุกและน่าจะได้ประตูนำห่างสุดๆ เมื่อ ราฟาเอล ดา ซิลวา ซัดไกล บอลพุ่งไปชนเสากระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 12 วิลล่า มีโอกาสบ้าง จากจังหวะโต้กลับเร็ว บอลหลุดมาถึง คริสเตียน เบนเทเก้ หลุดเข้าไปในเขตโทษก่อนปั่นบอลด้วยขวาข้ามคานออกไปนิดเดียว
นาทีต่อมา ปีศาจแดง นำห่าง ทีมเยือนผลบอล 2-0 จากจังหวะที่ เวย์น รูนี่ย์ เปิดบอลจากกลางสนามให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ วอลเลย์แบบไม่จับบอลบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ บอลโค้งเข้าเสาสองอย่างสวยงามสุดๆ
นาทีที่ 30 วิลล่า ทีมเยือน เกือบได้ประตูไล่ขึ้นมา เมื่อ ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย กระชากบอลฝั่งขวาก่อนยิงมุมแคบบอลไปแฉลบกองหลังเจ้าถิ่นผ่านหน้าประตูแบบมีลุ้น
นาทีที่ 33 แมนฯ ยู นำห่าง วิลล่า 3-0 จากจังหวะโต้กลับเร็ว บอลมาถึง ไรอัน กิ๊กส์ ทางฝั่งซ้ายก่อนจ่ายบอลเข้ากลางให้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แต่งบอลก่อนซัดด้วยซ้ายเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด
นาทีที่ 42 ทีมเยือนมีโอกาสทำประตูครั้งที่สามในเกม คริสเตียน เบนเทเก้ จ่ายให้ กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ ซัดบอลบริเวณหัวกระโหลก บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปนิดเดียว
ช่วงทดเวลาบอลส่วนใหญ่อยู่บริเวณกลางสนาม จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นำ แอสตัน วิลล่า 3-0
เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 48 แอสตัน วิลล่า มีโอกาสก่อน จากจังหวะเตะมุมบอลมาถึง นักเตะทีมเยือน โขกบอลผ่านมือ เด เกีย ไปแล้ว แต่ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ โหม่งสกัดบอลออกมาจากเส้นประตู
นาทีที่ 53 ทีมเยือนที่ครองบอลได้กว่าเกือบได้ประตู จาก คริสเตียน เบนเทเก้ ซัดบอลด้วยขวา บอลพุ่งเข้ากรอบฝั่งขวาแต่ เด เกีย ยังล้มตัวรับบอลไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม
นาทีที่ 70 เวย์น รูนี่ย์ เปิดมุมฝั้งขวาเข้ากลางให้ จอนนี่ อีแวนส์ ตวัดบอลตามน้ำเข้ากรอบ แต่ผู้เล่นวิลล่าเตะบอลออกไว้ได้จากเส้นประตู
นาทีที่ 72 ปีศาจแดง เปลี่ยนตัวผู้เล่น ส่ง แดนนี่ เวลเบ็ค ลงมาแทน เวย์น รูนี่ย์
นาทีที่ 76 คาริม เอล อาห์มาดี้ ผู้เล่นทีมยือน ได้ซัดบอลไกลฮุกเข้ากรอบกลางประตู แต่ เด เกีย ยังปัดบอลไว้ได้ปลายนิ้ว
วิเคราะห์บอล นาทีที่ 78 เจ้าบ้านน่าได้ประตูสุดๆ  ชินจิ คากาวะ รับบอลกลางประตูก่อนหักบอลหนึ่งจังหวะ และ แปบอลโล่งๆด้วยเท้าซ้าย แต่บอลโค้งข้ามคานไปแบบเหลือเชื่อ
ช่วงทดเวลา เป็นฝั่งเจ้าถิ่นที่ครองบอลจนหมดเวลาเพื่อรอฉลอง จบเกม  แมนฯ ยูฯ ถล่ม แอสตัน วิลล่า 3-0 ทำคะแนนทิ้งห่าง แมนฯ ซิตี้ ขาด 16 แต้ม พร้อม คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ สมัยที่ 20 เป็นผลสำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม 

แมนฯ ยูไนเต็ด : ระบบ 4-4-1-1 
ผู้รักษาประตู : ดาวิด เด เกีย 
กองหลัง : ราฟาเอล ดา ซิลวา,ฟิล โจนส์, จอนนี่ อีแวนส์ , ปาทริช เอวร่า 
กองกลาง : ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, ชินจิ คากาวะ, อันโตนิโอ วาเลนเซีย 
กองหน้า : เวย์น รูนี่ย์ - โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ 

แอสตัน วิลล่า : ระบบ 4-2-3-1 
ผู้รักษาประตู : แบร๊ด กูซาน 
กองหลัง : แม็ตธิว โลว์ตัน, รอน ฟลาร์, นาธาน บาเกอร์, โจอี้ เบนเน็ตต์ 
กองกลาง : แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, ฟาเบียน เดลฟ์ - อันเดรส ไวมันน์, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์, ชาร์ลส เอ็นซ็อกเบีย 
กองหน้า : คริสเตียน เบนเทเก้

แมนฯ ยูฯ 3-0 แอสตัน วิลล่า
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันจันทร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล มาลาก้า - ดอร์ทมุนด์


วิเคราะห์บอล มาลาก้า - ดอร์ทมุนด์ 
วิเคราะห์บอล มาลาก้า - ดอร์ทมุนด์

วิเคราะห์บอล ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีกส์
มาลาก้า - ดอร์ทมุนด์
เวลา: 01.45 น.
สนาม: ลา โรซาเลด้า
ผู้ตัดสิน: โยนาส อีริคส์สัน (สวีเดน)
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 3




ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
มาลาก้า
30 มี.ค. 56 ชนะ ราโย 3-1 (เยือน) ลาลีกา .....
17 มี.ค. 56 แพ้ เอสปันญ่อล 0-2 (เหย้า) ลา ลีกา
13 มี.ค. 56 ชนะ ปอร์โต้ 2-0 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
9 มี.ค. 56 เสมอ บาญาโดลิด 1-1 (เยือน) ลา ลีกา
3 มี.ค. 56 เสมอ แอตเลติโก มาดริด 0-0 (เหย้า) ลา ลีกา .....
ดอร์ทมุนด์
30 มี.ค. 56 ชนะ สตุ๊ตการ์ต 2-1 (เยือน) บุนเดสลีกา .....
16 มี.ค. 56 ชนะ ไฟร์บวร์ก 5-1 (เหย้า) บุนเดสลีกา
9 มี.ค. 56 แพ้ ชาลเก้ 1-2 (เยือน) บุนเดสลีกา
5 มี.ค. 56 ชนะ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ 3-0 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
2 มี.ค. 56 ชนะ ฮันโนเวอร์ 3-1 (เหย้า) บุนเดสลีกา .....
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
ไม่เคยพบกัน
ความพร้อม-สภาพทีม
มาลาก้า
มาลาก้าพร้อมใช้งานนักเตะชุดใหญ่ได้อีกครั้ง โดยขาดไปเพียงเอลิเซยู วิงแบ็กฝั่งซ้าย ซึ่งยังต้องพักยาวต่อไป เพราะอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ซึ่งกำเริบขึ้นมาอีกในการพยายามจะกลับมาลงซ้อมครั้งล่าสุด ทำให้วิตอริโน่ อันตูเนส เพื่อนร่วมชาติชาวโปรตุเกส จะได้ลงทำหน้าที่แทนเหมือนเดิม
ส่วนดิเอโก้ ลูกาโน่ กองหลังทีมชาติอุรุกวัย และอิ๊กนาซิโอ คามาโชกับดูด้า สองผู้เล่นมิดฟิลด์ ซึ่งไม่มีชื่ออยู่ในทีมชุดลงเตะลา ลีกานัดล่าสุด ก็ถูกเรียกตัวกลับมาร่วมทีมชุดนี้ด้วย แต่คงต้องสแตนด์บายในฐานะตัวสำรองต่อไป
เปโดร โมราเลส เพลย์เมกเกอร์ชาวชิลี ซึ่งยิงหนึ่งจ่ายหนึ่งในเกมลีกนัดล่าสุด จะไม่มีส่วนร่วมในเกมนี้เพราะไม่ถูกส่งชื่อร่วมแข่งด้วย เพราะโควตานักเตะที่ย้ายมาเสริมทีมในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาว 3 คนเต็มแล้ว
เกมนี้ ชูลิโอ บัปติสต้า กองหน้าชาวบราซิล คงจะถูกถอยลงมารับบทบาทหน้าต่ำแทน หลังถูกจับไปยืนเป็นหัวหอกตัวเป้าในเกมเมื่อสุดสัปดาห์ โดยโรเก้ ซานตา ครู้ซกับ ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า สองกองหน้าลาติน ซึ่งถูกพักไว้เป็นตัวสำรองในเกมล่าสุด ต้องเบียดลุ้นกันว่าใครจะได้ลงมาทำหน้าที่อีกครั้ง .....
ผู้เล่นบาดเจ็บ: เอลิเซยู
ความพร้อม-สภาพทีม
ดอร์ทมุนด์
เสือเหลืองต้องรอเช็กความฟิตของมาร์เซล ชเมลเซอร์ แบ็กซ้ายตัวหลัก ซึ่งลงเตะให้ทีมมาทุกนาทีในรายการนี้ แต่ดั้งจมูกหักมาจากเกมบุนเดสลีกานัดล่าสุด และคงต้องพึ่งการสวมหน้ากากพิเศษป้องกันเพื่อจะให้ลงเล่นได้ในเกมนี้ แต่ต้องรอไฟเขียวจากแพทย์อีกครั้งว่าระดับความฟิตเพียงพอหรือไม่ .....
ส่วนยาคุบ บลาสส์ชีคอฟสกี้ มิดฟิลด์ทีมชาติโปแลนด์ ก็เป็นอีกคนที่มีอาการบาดเจ็บที่โคนขาหนีบรบกวนอยู่ และจะต้องได้รับการเช็กความฟิตในนาทีสุดท้ายเช่นกัน แต่สเวน เบนเดอร์ มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน น่าจะสลัดปัญหาเจ็บเล็กน้อยที่ข้อเท้าทันลงเล่นได้ เช่นเดียวกับ เควิน โกรสครอยทซ์ อีกหนึ่งตัวเลือกในแดนกลาง ที่มีปัญหาแบบเดียวกัน .....
ทางด้านเซบาสเตียน เคห์ล มิดฟิลด์กัปตันทีมตัวเก๋า พร้อมเป็นตัวเลือกตรงกลางสนามได้เช่นกัน หลังกลับมามีชื่อเป็นตัวสำรองได้แล้วในเกมลีกนัดล่าสุด นับตั้งแต่พักไป 2 นัด เพราะเจ็บชายโครง
ส่วน มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ หนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็กตัวหลัก ยังไม่ฟิตพอกลับมาช่วยทีมในเกมนี้ หลังพักรักษาอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าไปราวสามสัปดาห์ ทำให้เฟลิเป้ ซานตาน่าจะได้โอกาสลงทำหน้าที่แทนอีกครั้ง แม้จะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยรบกวนอยู่
มาร์โก รอยส์ ปีกทีมชาติเยอรมัน เป็นอีกคนที่ยังพร้อมลงมาเป็นตัวหลักในแนวรุกได้ แม้จะเจ็บเล็กน้อยอยู่เช่นกัน
ผู้เล่นบาดเจ็บ: มาร์เซล ชเมลเซอร์, ยาคุบ บลาสส์ซีคอฟสกี้, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์
วิเคราะห์รูปเกม
มาลาก้าฟอร์มช่วงหลังไม่ค่อยดีนัก แต่ก็เรียกความมั่นใจกลับมาได้บ้างจากชัยชนะในเกมลีกนัดล่าสุด เกมนี้ได้ลงเตะในบ้านก่อนคงต้องพยายามชิงความได้เปรียบเอาไว้ให้ได้ แต่ดอร์ทมุนด์ก็ยังเก๋ากว่าในถ้วยใบนี้ แม้เสือเหลืองจะไม่ดุเหมือนก่อนแต่ก็ยังพร้อมตะปบประตูได้ทุกเมื่อ ทำให้เกมนี้เจ้าถิ่นคงต้องมีเสียวแน่ เพราะถ้าบุกเพลินก็มีสิทธิโดนสวนเสียประตูทีมเยือนที่จะทำให้เป็นรองเยอะทันที ทำให้นัดนี้คงจะต้องเล่นแบบเน้นแน่นอนไว้ก่อนเพื่อรอจังหวะ และไม่น่าจะพลาดท่าเสียทีในรังตัวเอง .....
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
มาลาก้า (4-2-3-1): วิลลี่ กาบาเยโร่; เฆซุส กาเมซ, มาร์ติน เดมิเคลิส, เวลิกตัน, วิตอริโน่ อันตูเนส; เฌเรมี่ ตูลาล็อง, มานูเอล อิตูร์ร่า; ฆัวกิน, ชูลิโอ บัปติสต้า, อิสโก้; โรเก้ ซานตา ครู้ซ .....
โค้ช: มานูเอล เปเญกรินี่
ดอร์ทมุนด์ (4-2-3-1): โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์; ลูคัสซ์ พิสซ์เช็ค, เนเว่น ซูโบติช, เฟลิเป้ ซานตาน่า, มาร์เซล ชเมลเซอร์; สเวน เบนเดอร์, อิลคาย กุนโดกาน; ยาคุบ บลาสส์ซีคอฟสกี้, มาริโอ เกิตเซ่, มาร์โก รอยส์; โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
โค้ช: เจอร์เก้น คล็อปป์
ฮอตสกอร์: มาลาก้าชนะ ผลบอล 1-0
เกร็ดย่อย
* มาลาก้ายังไม่เคยแพ้เกมฟุตบอลยุโรปในบ้านเลย (ไม่รวมรอบคัดเลือก) โดยชนะ 6 เสมอ 3
* มาลาก้าเป็นทีมที่ 4 ที่ลงแข่งแชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรกและชนะรวดใน 3 นัดแรก ต่อจากมิลาน (1992/93), ปารีส (1994/95) และยูเวนตุส (1995/96)
* มาลาก้าชนะแค่นัดเดียวในการลงเตะแชมเปี้ยนส์ลีก 5 นัดหลัง นั่นคือเกมล่าสุดกับปอร์โต้
* มาลาก้าไม่เสียประตูเลยตลอด 5 นัดแรกที่ลงเตะแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้ (รวมรอบคัดเลือก) และเสียไปแค่ 13 ประตู จากการลงเตะฟุตบอลถ้วยยุโรปมา 26 นัด
* มาลาก้าเป็นทีมที่จ่ายบอลสำเร็จน้อยที่สุดในบรรดาทีมที่ยังอยู่ในการแข่งขัน (65%)
* มาลาก้าเป็นทีมที่ยิงเข้ากรอบ (46), ยิงออกนอกกรอบ (33) และได้ลูกเตะมุม (34) น้อยที่สุดในบรรดาทีมที่ยังอยู่ในการแข่งขัน
* มานูเอล อิตูร์ร่า ทำฟาวล์ไปแล้ว 20 ครั้ง มากที่สุดในบรรดานักเตะที่ยังอยู่ในการแข่งขัน
* มาลาก้าชนะแค่ 6 จาก 17 นัดที่ลงเตะในปี 2013
* ดอร์ทมุนด์ชนะเกมยุโรปนัดเยือนที่สเปนได้แค่ครั้งเดียวจาก 8 นัด คือชนะแอตเลติโกมาดริด 1-0 เมื่อตุลาคม 1996 ซึ่งพวกเขาก้าวไปจนถึงตำแหน่งแชมป์ในปีนั้น
* ดอร์ทมุนด์เสียล้ำหน้า 7 ครั้ง และรับใบเหลือง 6 ใบ น้อยที่สุดในบรรดาทีมที่ยังอยู่ในการแข่งขัน
* ดอร์ทมุนด์เป็นหนึ่งในสองทีมที่ยังไม่แพ้ใครเลยที่ยังอยู่ในการแข่งขันร่วมกับยูเวนตุส
* ดอร์ทมุนด์ทำประตูได้ทุกนัดในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลนี้
* โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ทำประตูได้ตลอด 9 นัดหลังสุดที่ลงเตะในบุนเดสลีกา ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของผู้เล่นดอร์ทมุนด์ .....
* เลวานดอฟสกี้ทำ 13 ประตู ในการลงเล่นให้ดอร์ทมุนด์ 13 นัดหลังสุด และยังทำอีก 2 ประตู ในการลงเล่นให้ทีมชาติโปแลนด์ 3 นัดในช่วงนั้นด้วย
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2556

เตโญ่เบิ้ล! บาร์ซ่าบุกยำซาราโกซ่า 3:0


เตโญ่เบิ้ล! บาร์ซ่าบุกยำซาราโกซ่า 3:0 
เตโญ่เบิ้ล! บาร์ซ่าบุกยำซาราโกซ่า 3:0
ฟุตบอลลาลีกา สเปน
ฤดูกาล 2012-13 นัดที่ 31
วัน อาทิตย์ ที่ 14 เมษายน 2556

ซาราโกซ่า 0 : 3 บาร์เซโลน่า

สนาม : เอสตาดิโอล เด ลา โรมาเรด้า



เริ่มเกมมาสู่นาทีที่ 20 "เจ้าบุญทุ่ม"บาร์เซโลน่า ผู้มาเยือนได้ประตูขึ้นนำ ซาราโกซ่า ก่อน 1:0 จากจังหวะที่ อเล็กซิส ซานเชซ ไหลบอลจากด้านฝั่งขวา ให้กับ ติอาโก้ อัลกานตาร่า สอดมายิงบอลชนเสาสองเหลี่ยมในเข้าไปตุงตาข่าย
นาทีที่ 39 ติอาโก้ อัลกานตาร่า จ่ายบอลทะลุช่องให้กับ คริสเตียน เตโญ่ หลุดขึ้นมาด้านฝั่งซ้ายก่อนจะบรรจงยิงบอลผ่านมือโรเบร์โต้ ฆิเมเนซเข้าไปตุงตาข่าย บาร์เซโลน่า บุกมานำ ซาราโกซ่า 2:0
นาทีที่ 53 บาร์เซโลน่า หนีห่าง ซาราโกซ่า เป็น 3:0 จากการใช้ความสามารถเฉพาะตัวของคริสเตียน เตโญ่ที่ลากบอลเข้ามาด้านฝั่งซ้ายก่อนจะยิงบอลเสียบเสาสองเข้าไปอย่างเหนือชั้น
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำประตูได้เพิ่ม จบเกม "เจ้าบุญทุ่ม"บาร์เซโลน่า บุกมาเอาชนะ ซาราโกซ่า ด้วยสกอร์ 3:0 ในศึกฟุตบอลลาลีกา สเปน ฤดูกาล 2012-13 นัดที่ 31
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
ซาราโกซ่า ระบบ 4-2-3-1 :
ผู้รักษาประตู : โรเบร์โต้ ฆิเมเนซ
กองหลัง : คริสเตียน ซาปูนารู,เกล็น ลูเวนส์,อัลบาโร่ กอนซาเลซ ,ฆาเบียร์ ปาเรเดส
กองกลาง : โฆเซ่ โมบีย่า,โฆเซ่ มารี (อันโตนิโอ อปอนโญ่ น.46) - บิคตอร์ โรดริเกซ(ฆอร์เก้ ออร์ติ น.46),โรดรี,ปาโก้ มอนตานเญส
กองหน้า : เอลแดร์ ปอสซิก้า(รูเบน โรคิน่า น.63)
บาร์เซโลน่า ระบบ 4-3-3 :
ผู้รักษาประตู : บิคตอร์ บัลเดส
กองหลัง : ดาเนียล อัลเวส,มาร์ติน มอนโตย่า,มาร์ค บราตร้า,อาเดรียโน่(เอริก อบิดัล น.78)
กองกลาง : ติอาโก้ อัลกานตาร่า,ชาบี เฮอร์นานเดซ(เซร์จี้ โรเบร์โต้ น.81),อเล็กซ์ ซง
กองหน้า : อเล็กซิส ซานเชซ,เชส ฟาเบรกาส,คริสเตียน เตโญ่(ดาบิด บีย่า น.84)

ซาราโกซ่า 0 : 3 บาร์เซโลน่า

ฟุตบอลลา ลีกา สเปน คู่อื่นๆ

 - เรอัล ซาราโกซ่า Vs บาร์เซโลน่า

 - แอธ.บิลเบา Vs เรอัล มาดริด

 - ราโย บาเยกาโน่ แพ้ เรอัล โซเซียดาด 0-2 

 - แอต.มาดริด ชนะ กรานาด้า 5-0
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2556

สิงโตบุกเฉือนมอนเต,กระทิงบุกขวิดตราไก่นำฝูง


สิงโตบุกเฉือนมอนเต,กระทิงบุกขวิดตราไก่นำฝูง 
สิงโตบุกเฉือนมอนเต,กระทิงบุกขวิดตราไก่นำฝูง
วิเคราะห์บอล : สำหรับวันนี้ก็ยังมีฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนยุโรปอีกทีมละหนึ่งนัดก่อนที่จะกลับไปเตะฟุตบอลลีกกันเหมือนเดิม ซึ่งมีบิ๊กแมตช์ที่น่าสนใจและจะนำมาวิเคราะห์วิจารณ์กันสองคู่

เริ่มจากเกมระหว่างทีมแกร่งจากยุโรปตะวันออกอย่างมอนเตเนโกรจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของขุนพล “ทรีไลอ้อน” อังกฤษ ในกลุ่มเอช.....

ขณะที่อีกคู่เป็น “ตราไก่” ฝรั่งเศสจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ “กระทิงดุ” สเปน เพื่อแย่งตำแหน่งจ่าฝูงของกล่มไอ โดยทีมแชมป์กลุ่มจะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติไม่ต้องไปเพลย์ออฟ



ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนยุโรป มอนเตเนโกร พบ อังกฤษ


ทั้งคู่เพิ่งเอาชนะคู่แข่งที่อ่อนชั้นกว่าได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็น่าจะเป็นการเรียกความมั่นใจอย่างดีก่อนเจองานหนักในนัดนี้ ทำให้บลังโก้ เบอร์โนวิช ไม่ค้องห่วงเรื่องของความมั่นใจลูกทีมนอกจากเรื่องแท็กติกแผนการเล่นมากกว่าที่ต้องเน้นเกมรับพยายามครองความได้เปรียบในแดนกลางให้ได้แถมข่าวดีคือไม่มีนักเตะตัวหลักบาดเจ็บหรือติดโทษแบนจึงน่าจะใช้ชุดเดิมเหมือนที่ผ่านๆ มาเล่นในระบบ 4-4-2


เริ่มจากมลาเดน โบโซวิชเป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบไปด้วยสเตฟาน ซาวิช, มาร์โก บาซ่า, มิโอแดร็ก ชูโดวิชและมิลาน โยวาโนวิช ตรงกลางให้นิโคล่า ดรินซิสกับกับมิโรราด เปโควิช คอยตัดเกมพร้อมตัวทำเกมอย่างวิคเตอร์ โกโลวาเทนโก้กับไซม่อน วุคเชวิช สุดท้ายคู่กองหน้าเป็นสเตวาน โยเวติชกับมีร์โก วูชินิช


ทีมชาติอังกฤษของรอย อ็อดจ์สันเพิ่งถล่มทีมอ่อนชั้นกว่าไปได้ 8 ประตูจึงวัดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องของความมั่นใจที่กลับมามุ่งมั่น อย่างไรก็ตามนัดนี้ทีมจำเป็นต้องเก็บสามแต้มให้ได้เพื่อแซงคู่แข่งขึ้นเป็นแชมป์กลุ่มที่จะผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบไม่ต้องเพลย์ออฟให้ใจหายใจคว่ำ

ส่วนเรื่องตัวผู้เล่นไม่ต่างจากเดิมที่ น่าห่วงคงเป็นเรื่องเกมรับที่ต้องเจอของจริงแล้วหลังจากตัวหลักในตอนแรกถอนตัวหมดไม่ว่าจะเป็นแกรี่ เคฮิลล์หรือริโอ เฟอร์ดินานด์ โดยทีมจะมาเล่นในระบบเดิมคือ 4-2-3-1


เริ่มจากโจ ฮาร์ทเป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบไปด้วยเกล็น จอห์นสัน, โจลีออน เลสคอตต์, แกรี่ เคฮิลล์และเลห์ตัน เบนส์ ตัดตัดเกมให้สก็อต ปาร์คเกอร์กับไมเคิล คาร์ริคค่อยช่วยกันพร้อมตัวทำเกมอย่างสตีเว่น เจอร์ราร์ด แฟรงค์ แลมพาร์ดและธีโอ วัลคอตต์ ในขณะที่กองหน้าจะเป็นเวนย์ รูนีย์ลงสนาม.....


เกมนี้ ทีมชาติมอนเตเนโกรเจ้าบ้านเจอกับคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อเลยทีเดียวจากระบบของทีมที่ไม่แตกต่างกันรวมทั้งตัวผู้เล่นเหมือนคู่แข่งที่ทั้งสองเจอมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ดูเจ้าบ้านน่าจะมาเน้นเกมรับเพราะแค่เพียงเสมอก็จะรักษาความได้เปรียบมีโอกาสผ่านเข้ารอบสูงในฐานะอันดับหนึ่งของกลุ่ม.....

ต่างจากอังกฤษที่ต้องชนะสถานเดียวเท่านั้นมิเช่นนั้นเหนื่อยแน่ อย่างไรก็ตามสุดท้ายเชื่อว่าอังกฤษที่ประสบการณ์ในเวทีระดับนานาชาติมากกว่าบวกกับการที่ปู่รอยทำทีมค่อนข้างเหนียวแน่นน่าจะทำให้เฉือนชนะไปได้ในท้ายที่สุด.....

สกอร์ที่คาด มอนเตเนโกร แพ้ อังกฤษ ผลบอล 1-2



ฝรั่งเศส - สเปน

ทีมชาติฝรั่งเศสเป็นจ่าฝูงของกลุ่มหลังจากเอาชนะคู่แข่งมาได้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่นัดนี้เหนื่อยแน่กับการเจอทีมใหญ่ที่เหมือนกันแถมศักยภาพของคู่แข่งดีกว่าด้วยซ้ำ.....

ทำให้กุนซือเจ้าบ้านอย่างดิดิเยร์ เดส์ชองป์ส ต้องเตรียมทำการบ้านในเรื่องของแท็กติกแผนการในการเล่นเกมรับมาเป็นอย่างดีแน่ ในส่วนสภาพทีมจะขาดแค่มาติเยอ เดบูชี่เพียงคนเดียวที่บาดเจ็บไม่ได้ถูกเรียกตัวเข้ามาติดทีมนอกนั้นไม่มีปัญหาอะไรแถมกำลังมั่นใจกับชัยชนะที่ผ่านมาอีกด้วย ดูแล้วทีมคงมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม.....


เริ่มจากฮูโก้ โยริสเป็นผู้รักษาประตู แนวรับประกอบไปด้วยปาทริซ เอฟร่า, ราฟาเอล วาราน, มามาดู ซาโก้และกาแอล กลีชี่ แดนกลางมีมักซิม โกนาล็องกับโยฮัน กาบายคอยตัดเกมพร้อมตัวทำเกมอย่างแบลส มาตุยดี้ เฌเรมี่ เมเนซและฟร็องค์ ริเบรี่ ในขณะที่กองหน้าตัวเป้าจะให้โอลิวิเยร์ ชิรูด์ลงสนาม.....


ทีมชาติสเปนเพิ่งเสียฟอร์มเสมอกับทีมที่เป็นรองกว่าแบบต้องโทษตัวเองที่ยิงกันไม่คมและไปเสียสมาธิในเกมรับเพียงครั้งเดียวจึงทำคะแนนหล่นหายไปถึงสองคะแนน.....

  นัดล่าสุด สเปน เสมอ ฟินแลนด์ 1-1

ทำให้บิเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือของทีมต้องเรียกฟอร์มของลูกทีมกลับมาให้ได้ถ้าหวังจะเป็นแชมป์กลุ่มเพื่อไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายแบบอัตโนมัติ เรื่องขุมกำลังภายในทีมไม่มีผู้รักษาประตูมือหนึ่งอย่างอิเคร์ คาซิญาสที่เจ็บยาวเพียงคนเดียว ดูแล้วเล่นตามสไตล์ของเดิมของตัวเองมาเน้นครองบอลแดนกลางเพื่อสร้างความได้เปรียบและหาโอกาสเข้าทำ โดยจะมาเล่นในระบบ ระบบ 4-5-1.....


เริ่มจากเปเป้ เรน่าเป็นผู้รักษาประตู ฟุตบอลแนวรับประกอบไปด้วยเซร์คิโอ รามอส, เคราร์ด, ปิเก้, ราอูล อัลบิโอล และอัลวาโร่ อาร์เบลัว ตรงกลางมีชาบี อลองโซ่กับชาบี เอร์นานเดซคุมจังหวะพร้อมตัวรุกอย่างอันเดรส อินิเอสต้า, เชส ฟาเบรกัสและฆวน มาตา สุดท้ายกองหน้าตัวเป้าจะให้ดาวิด บีย่าที่หายเจ็บกลับมาลงสนาม
   

เกมนี้ ทีมชาติฝรั่งเศสได้เป็นเจ้าบ้านถึงจะเป็นทีมใหญ่แต่ก็เจอใหญ่กว่าอย่างทีมชาติสเปนที่ดูเป้นต่อในเรื่องของตัวผู้เล่น ระบบทีมรวมทั้งประสบการณ์ที่มีมากกว่าถึงฟอร์มของทีมเยือนจะเพิ่งหลุดเสมอมาก็ตาม.....

เกมนี้เจ้าบ้านต้องพยายามตัดเกมตรงกลางของทีมเยือนให้ได้ถ้าหวังจะเก็บสามแต้มในสนามสต๊าด เดอ ฟรอง ของตัวเอง แต่เป็นสเปนที่ต้องมีลูกฮึดเพื่อจะผ่านเข้ารอบรวมทั้งขุมกำลังที่ครบเครื่องมากกว่าจะบุกมาเอาชนะไปได้ในที่สุดครับ

สกอร์ที่คาด ฝรั่งเศส แพ้ สเปน 1-2



เรื่องโดย : Dr.Mao
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่