วันพฤหัสบดีที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2556

′ซ้อต่าย′ ฉุนขาดสั่งปลดเจ้าหน้าที่รับสมัคร ′มิส บุรีรัมย์′ - ยันโปร่งใสไม่มีล็อคสเป็ค (ชมคลิป)


′ซ้อต่าย′ ฉุนขาดสั่งปลดเจ้าหน้าที่รับสมัคร ′มิส บุรีรัมย์′ - ยันโปร่งใสไม่มีล็อคสเป็ค (ชมคลิป) 
′ซ้อต่าย′ ฉุนขาดสั่งปลดเจ้าหน้าที่รับสมัคร ′มิส บุรีรัมย์′ - ยันโปร่งใสไม่มีล็อคสเป็ค (ชมคลิป)
ฟุตบอล: กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาทันทีหลังจากที่มีหนึ่งในสาวงามที่เข้าร่วมประกวด "มิส บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" ที่ทางสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดขึ้นเพื่อเฟ้นหาสาวงามที่มีหัวใจรักกีฬา มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ประจำสโมสร ชิงเงินรางวัลกว่า 1 ล้านบาท พร้อมรถยนต์ฟอร์ด โฟกัส
โพสต์คลิปวีดีโอผ่านโซเชียลแคม โดยใช้ชื่อว่า"นรีเมธ มุคำ (แอลฟี่)" ระบุว่า "เป็นพริตตี้รับจ้างมาประกวด แค่มาลงสมัครก็รับค่าตัว"ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงการประกวดครั้งนี้ ในเรื่องของเกณฑ์การตัดสินผู้ที่เข้าประกวด ว่าจะโปร่งใสหรือเปล่า จะมีการล็อคสเป็คผู้เข้าไปประกวดไว้แล้วหรือไม่
เรื่องดังกล่าวทำให้ "ซ้อต่าย" กรุณา ชิดชอบ ต้องออกมาชี้แจงผ่านเฟสบุ๊คของตัวเอง "Karuna Chidchob"อย่างเผ็ดร้อนว่า
"ไม่ว่าคุณจะมาจากไหน หรือใครจะจ้างใครมาประกวด เพื่อหวังจะล่าเงินรางวัลในรายการนี้ ก็ขอบอกว่าคิดผิด และคนที่ไปจ้างคุณมา กรอกใบสมัคร ก็ต้องเสียเงิน "ค่าตัวให้คุณฟรีๆ" เพราะรายชื่อคณะกรรมการที่จะมาตัดสิน ตำแหน่ง MISS BURIRAM UNITED ตามที่ได้ประกาศรายชื่อออกไป คณะกรรมการทุกคน "ไม่มีใครซื้อได้" และคณะกรรมการทุกคนต้องเลือก "คนที่ดีที่สุด" เท่านั้น เพราะคนที่จะได้รับการตัดสินจะเป็นหน้าตาของตัวคณะกรรมการด้วยเช่นกัน ถ้าคุณไม่สวย และไม่ดีพอในสายตาของคณะกรรมการ ไม่ต้องเสียเวลามาสมัครเลยค่ะ"
และเพื่อให้การรับสมัคร ผู้เข้าประกวด MISS BURIRAM UNITED ยังดำเนินต่อไปได้ และมีคุณภาพ ตั้งแต่ในวันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ดิฉันขอสั่งปลด เจ้าหน้าที่ที่รับสมัคร (ที่เริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 3-19 มีนาคม 2556) ออกทั้งหมด
เนื่องจากทำงาน ไม่มีคุณภาพและไม่ได้มาตรฐานและที่สำคัญ คือ ไม่มีตา และดิฉันได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ที่จะรับสมัครใหม่ไว้แล้ว ผู้ที่จะไปสมัคร สามารถไปสมัครได้ที่สนามไอ-โมบาย สเตเดี้ยม และที่ทำการของสโมสรฯ ถนนพหลโยธิน ซอย 43 กรุงเทพ ในเวลาเดิม
ทั้งนี้หลังจากมีการชี้แจงผ่านเฟสบุ๊คแล้ว "ซ้อต่าย" ยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า "ไม่ว่าใครอย่าได้คิดถูกเวทีการประกวดนี้ หรือเวทีนี้จะเหมือนกับเวทีอื่นๆ คือ ง่าย และล็อคตัวผู้เข้าประกวดไปก่อนแล้ว เพราะทุกอย่างที่ทำล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องของคนบุรีรัมย์ทั้งจังหวัด และเป็นเรื่องเศรษฐกิจล้วนๆของคนบุรีรัมย์"

"สำหรับสิ่งที่ทำไปนั้นก็เพื่ออยากให้ผู้คนจากทั่วสารทิศเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะจังหวัดบุรีรัมย์ไม่ได้มีภูมิประเทศที่เอื้ออำนวยต่อการท่องเที่ยวมากนัก ไม่มีทะเล ภูเขา และสถานที่น่าสนใจมากมาย ในปีที่แล้วทางสโมสรจัดงานสงกรานต์ 2 วัน มีคนเข้ามาใช้เงินในจังหวัด 50 กว่าล้านบาท ซึ่งตรงนี้ก็มีผลต่อเจ้าของโรงแรม ร้านค้า แม่ค้าพ่อค้า ลูกหลานในจังหวัดบุรีรัมย์ เรียกว่าคนที่ได้รับประโยชน์คือ คนบุรีรัมย์ล้วนๆ"

คลิป: "นรีเมธ มุคำ (แอลฟี่)" ระบุว่า "เป็นพริตตี้รับจ้างมาประกวด แค่มาลงสมัครก็รับค่าตัว"


ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันพุธที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2556

เดอะ ซัลโว ค้นฟ้า คว้าดาว โดย ดาร์ค ไนท์


เดอะ ซัลโว ค้นฟ้า คว้าดาว โดย ดาร์ค ไนท์ 
เดอะ ซัลโว ค้นฟ้า คว้าดาว โดย ดาร์ค ไนท์
วิเคราะห์บอล : สวัสดีครับพี่น้องชาวไทยผ่านพ้นไปอีกสัปดาห์สำหรับฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยวีคนี้ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงเปิดบ้านชนะ เรดดิ้ง 1-0 ส่วน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดันบุกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน 0-2 ส่งผลให้ แมนฯยู ขยับห่าง เรือใบ กว่า 15 คะแนนแล้ว โอกาสคว้าแชมป์ยิ่งกว่านอนมาเสียอีก
แต่สำหรับศึกชิงดาวซ้ลโวพรีเมียร์ลีกนั้นยังเข้มข้นยิ่งนักในช่วงโค้งสุดท้ายที่เหลือในซีซั่นนี้
วันนี้ผมจะพาไปดู แคนดิเดต ที่เหลือว่าใครมีลุ้นคว้ารองเท้าทองคำในปีนี้บ้าง

1. หลุยส์ ซัวเรซ (ลิเวอร์พูล) 30 นัด 22 ประตู
- กองหน้าจอมถล่มประตูชาวอุรุกวัย ซัดให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ไปแล้วกว่า 22 ประตู ในพรีเมียร์ลีกคั่วดาวซัลโวในฤดูกาลนี้ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้า "ปีศาจแดง" แต่ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงของ ซัวเรส เรียกได้ว่าถ้าวันไหน หงส์แดง ขาด ซัวเรส ก็เหมือนขาดใจเลยทีเดียว
2.โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) 29 นัด 19 ประตู
- ศูนย์หน้าชาวดัตช์ เจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำเมื่อซีซั่นก่อน กดให้ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกไปด้วยผลบอล 19 ลูก โดย "อาร์วีพี" มีฟอร์มที่ร้อนแรงช่วงต้นฤดูกาล ก่อนที่จะช็อตไปดื้อๆจนถูก ซัวเรส แซงนำ ดาวซัลโวในขณะนี้ ต้องรีบทำประตูอย่างหนักหากหวังจะรักษารองเท้าทองคำอีกสมัย
3. แกเร็ธ เบล (ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์) 30 นัด 16 ประตู
- ดาวยิงฟอร์มแรง สัญชาติเวลส์ เจ้าของนักเตะยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกปีก่อน ซัดให้ "ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไปแล้ว 16 ประตู และ ช่วยให้ต้นสังกัดบินสูงอยู่อันดับ 4 ของตารางในเวลานี้ จนมีลุ้นไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรป ยูฟ่า เเชมป์เปี้ยนลีก โดย เบล คงต้องรีบทำประตูในช่วงโค้งสุดท้ายที่เหลือหากหวังจะคว้าดาวซัลโวปีนี้
4. มิชู (สวอนซี ซิตี้) 30 นัด 15 ประตู
- มิชู นักเตะฟุตบอลชาวสเปน ของ "หงส์ขาว" สวอนซี ซิตี้ ยิงไปแล้ว 15 ประตู เป็นนักเตะโนเนมที่ไม่ได้ถูกจับตามองในปีนี้ อย่างไรก็ตามเขาก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ข้านี่หละคือของจริง และยังสามารถช่วยให้ หงส์ขาว คว้าแชมป์ แคปิตอล วัน คัพ ในซีซั่นนี้มาครองอีกด้วย
5.เดมบ้า บา (เชลซี) 29 นัด 15 ประตู
- กองหน้าผิวสี ของ "สิงห์บูลส์" เชลซี กดไปแล้วกว่า 15 ให้ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล และ เชลซี ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลัง โดย บา ที่มีทักษะการทำประตูที่ยอดเยี่ยม, เฉียบคม จนสามารถเบียด เฟอร์นันโด ตอร์เรส ดาวยิงฟอร์มฝืด เป็นศูนย์หน้าอันดับ 1 แห่งถิ่น สแตมฟอร์ดบริดจ์ ได้สำเร็จฤดูกาลนี้
ถ้าให้วิเคราะห์กันจริงๆแล้วคงจะเป็นการวัด 2 คน 2 คมระหว่าง หลุยส์ ซัวเรซ กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่พอจะเบียดแซงได้สูสี
อย่างไรก็ตาม แกเร็ธ เบล ช่วงหลังที่ฟอร์มกระฉูดก็มีโอกาสเช่นกันหากทำประตูได้ต่อเนื่องในทุกนัดที่เหลือ
แต่ถ้าดูฟอร์มในตอนนี้แล้วผมคิดว่า ซัวเรซ ที่ฟอร์มกำลังร้อนแรง และ เปรียบเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างของลิเวอร์พูล มีโอากาสคว้ารองเท้าทองคำมาครองมากที่สุด และอาจเป็น
"เกียรติยศเดียวที่ยังได้ลุ้นอยู่ของหงส์แดง" ในซีซั่นนี้ก็เป็นได้
เรื่องโดย ดาร์ค ไนท์
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

แลมพ์,อาซาร์ซัด!สิงห์ยำค้อนนิ่ม2-0แซงไก่รั้งที่ 3


แลมพ์,อาซาร์ซัด!สิงห์ยำค้อนนิ่ม2-0แซงไก่รั้งที่3+คลิป 
แลมพ์,อาซาร์ซัด!สิงห์ยำค้อนนิ่ม2-0แซงไก่รั้งที่3+คลิป
ฟุตบอล : "แลมพ์" ควง อาซาร์ ซัดคนละลูก พาทีมเปิดบ้านไล่อัด "ขุนค้อน" แบบไร้ปัญหา 2-0 พร้อมเก็บเพิ่มเป็น 55 แต้ม แซง "ไก่" ขึ้นไปรั้งที่ 3 ของลีกและลงเล่นน้อยกว่า 1 นัด เรียบร้อย

การแข่งฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาล 2012/2013 ประจำคืนวันอาทิตย์ที่ 17 มีนาคม 2556 ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

เริ่มเกมไปได้เพียง 2 นาที เวสต์แฮม มาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษ ริคคาร์โด้ วาส เท วิ่งมาซัด แต่บอลก็เหินข้ามคานออกไปแบบไม่ต้องลุ้น

น.7 เชลซี พลาดโอกาสได้ประตูขึ้นนำแบบน่าเสียดาย เมื่อ แฟรงค์ แลมพาร์ด จ่ายยาวให้ เดมบา บา ได้จังหวะหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลต่อตัวกับ ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น แล้ว แต่เจ้าตัวกลับชิพไม่ตรงกรอบออกไปอย่างเหลือเชื่อ

น.19 แต่ในที่สุดทีมเยือนก็มาได้ประตูขึ้นนำได้สำเร็จ เมื่อแนวรับทีมเยือนสกัดบอลไม่ดี ลูกตกมาเข้าทาง เอแด็น อาซาร์ กระดกบอลเข้าไปหน้าประตูให้ แลมพาร์ด ได้โขกคนเดียวโล่งๆ ระยะ 6 หลา ผ่านมือ ยาสเคไลเน่น เข้าไป เชลซี นำไปก่อน 1-0 และเป็นประตูที่ 200 ของเจ้าตัวกับต้นสังกัดอีกด้วย

น.22 เวสต์แฮม ชวดตีเสมอไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อ แอนดี้ คาร์โรลล์ ซัดบอลเข้าไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูเพราะเจ้าตัวไปผลัก ดาวิด หลุยซ์ ในจังหวะจะทำประตูเสียก่อน

น.37 เจ้าถิ่นเกือบบวกประตูเพิ่มได้ เมื่อ เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ที่อยู่ทางฝั่งขวาจ่ายมาให้ วิคเตอร์ โมเซส ที่ยืนอยู่ตรงกลางเขตโทษ จับหนึ่งจังหวะแล้วพลิกตัวยิงด้วยขวา แต่บอลก็พุ่งเรียดเฉี่ยวเสาออกไปแบบน่าเสียดาย

น.43 "สิงห์บลูส์" ยังพลาดโอกาสทำประตูอีก คราวนี้ โมเซส จ่ายทะลุช่องให้ บา หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษแล้ว แต่เจ้าตัวกลับซัดไปติดเท้า ยาสเคไลเน่น ที่ออกมาป้องกันไว้ได้ ก่อนจะโดน เจมส์ คอลลินส์ เคลียร์ออกไปอย่างหวุดหวิด

ช่วงท้าย "ขุนค้อน" มีโอกาสลุ้นบ้างจาก ริคคาร์โด้ วาส เท แต่ก็ยังไม่ผ่านมือของ ปีเตอร์ เช็ก อยู่ดี สุดท้ายทำอะไรไม่ได้ หมดครึ่งแรกเป็นทางฝั่ง เชลซี ขึ้นนำไปก่อน 1-0

กลับมาในช่วงครึ่งหลัง เวสต์แฮม รีบแก้เกมทันที ส่ง แม็ททิว เทย์เลอร์ ลงสนามมาแทนที่ของ โมฮัมเหม็ด ดิยาเม่

น.50 แต่กลายเป็นว่า เชลซี มาได้ประตูเพิ่ม เมื่อ อาซาร์ จ่ายมาให้ มาต้า ก่อนจะกระดกคืนกลับมาให้เจ้าตัวเลี้ยงตัดหน้าเขตโทษ ก่อนจะซัดด้วยซ้าย บอลหนีมือ ยาสเคไลเน่น เข้าไปอย่างเฉียบขาด ช่วยให้ทีมหนีห่างเป็น 2-0

น.58 ทีมเยือน เกือบได้ลุ้นอีก เมื่อ แม็ทธิว จาร์วิส เลี้ยงจากริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะโยนข้ามไปให้ คาร์โรลล์ ที่อยู่ทางเสาไกลขึ้นโขก แต่บอลก็ยังเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ต้องุล้น

เวสต์แฮม เปลี่ยนตัวเพิ่มเป็นคนที่สองถอด เมื่อตัดสินใจถอด เจมส์ คอลลินส์ ออกแล้วส่ง เจมส์ ทอมกิ้นส์ ลงสนามแทน

เจ้าถิ่นเปลี่ยนตัวสำรองบ้าง ส่ง ออสการ์ ลงสนามมาเป็นคนแรก โดยเป็นทาง วิคเตอร์ โมเซส ที่โดนถอดออกไป ถัดมาทีมส่ง จอห์น เทอร์รี่ ลงมาเป็นคนที่สอง แทนที่ ดาวิด หลุยซ์ ที่เหมือนจะมีอาการบาดเจ็บรบกวน

"ขุนค้อน" แก้เกมครั้งสุดท้ายส่ง คาร์ลตัน โคล ลงสนามเพื่อลุ้นโอกาสทำประตูแทน ริคคาร์โด้ วาส เท

น.81 เจ้าถิ่นเกือบหนีเพิ่มได้อีก หลัง มาต้า เปิดเข้าไปที่จุดนัดพบให้ แกรี่ เคฮิลล์ ได้โขกจ่อๆ หน้าประตู แต่ ยาสเคไลเน่น ยังไม่พลาดคว้าติดมือไว้ได้แบบไร้ปัญหา

วิเคราะห์บอล น.84 ทีมเยือนยังคงเจาะประตูไม่ได้ต่อไป หลังจากที่ แม็ทธิว จาร์วิส ได้โอกาสตั้งป้อมโยนไปที่เสาแรกให้ คาร์ลตัน โคล ที่เพิ่งเปลี่ยนลงมาได้กดจ่อๆ แต่ดีที่ เช็ก ยังไวพุ่งตัวไปคว้าเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว

เชลซี เปลี่ยนเอา มาต้า ออกจากสนามเป็นคนสุดท้าย แล้วให้ จอห์น โอบี มิเกล ลงมาเสริมความแน่นในแดนกลางแทน

ท้ายเกม "สิงห์บลูส์" ยังเป็นฝ่ายได้กดดันอยู่หลายครั้ง แต่ทั้งหมดก็ไม่ผ่าน ยาสเคไลเน่น ที่ป้องกันไว้ได้หมด ขณะที่ทีมเยือนได้ลุ้นจากการโหม่งของ แอนดี้ คาร์โรลล์ แต่ก็ทำได้แค่ใกล้เคียงเท่านั้

จากนั้นไม่อะไรเพิ่มอีก หมดเวลา เชลซี เป็นฝ่ายเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปด้วยผลบอล 2-0 พร้อมมีคะแนนเพิ่มเป็น 55 คะแนน แซงหน้า ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ที่เพิ่งพ่ายต่อ ฟูแล่ม มาหมาดๆ ขึ้นไปรั้งอันดับที่ 3 ของตาราง โดยยังลงเล่นน้อยกว่าคู่แข่งถึง 1 นัด อีกด้วย

รายชื่อผู้เล่น เชลซี (4-2-3-1) :
ปีเตอร์ เช็ก - เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด หลุยซ์ (จอห์น เทอร์รี่ น.78), แอชลี่ย์ โคล - รามิเรส, แฟรงค์ แลมพาร์ด - วิคเตอร์ โมเซส (ออสการ์ น.70), ฆวน มาต้า (จอห์น โอบี มิเกล น.85), เอแด็น อาซาร์ - เดมบา บา
ผู้เล่นสำรอง
รอสส์ เทิร์นบูล - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช - ไรอัน เบอร์ทรานด์ - เฟร์นานโด ตอร์เรส

รายชื่อผู้เล่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (4-3-3) :
ยุสซี่ ยาสเคไลเน่น - กีย์ เดเมล, เจมส์ คอลลินส์ (เจมส์ ทอมกิ้นส์ น.61), วินสตัน รีด, โจอี้ โอไบรอัน - แกรี่ โอนีล, โมฮัมเหม็ด ดิยาเม่ (แม็ททิว เทย์เลอร์ น.45), แจ็ค คอลลิสัน - ริคคาร์โด้ วาส เท (คาร์ลตัน โคล น.80), แอนดี้ คาร์โรลล์, แม็ทธิว จาร์วิส
ผู้เล่นสำรอง
สปิเกล ราฟาเอล - จอร์ช แม็คคาร์ทนี่ย์ - เอมานูเอล โปกาเตตซ์ - มารูอาน ชามัคส์

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
เชลซี 2 : 0 เวสต์แฮม ยูไนเต็ด

 by footyroom

ส่วนผลพรีเมียร์ ลีก คู่อื่น
 
เชลซี ชนะ เวสต์แฮม 2-0
สเปอร์ส แพ้ ฟูแล่ม 0-1   
วีแกน ชนะ นิวคาสเซิ่ล 2-1    
ซันเดอร์แลนด์ เสมอ นอริช ซิตี้ 1-1
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2556

โคตรดราม่า! งูช้ำถล่มไก่ 4-1 รวม 4-4 ร่วงอเวย์โกล


โคตรดราม่า! งูช้ำถล่มไก่ 4-1 รวม 4-4 ร่วงอเวย์โกล 
โคตรดราม่า! งูช้ำถล่มไก่ 4-1 รวม 4-4 ร่วงอเวย์โกล

ศึกฟุตบอล ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันพฤหัสบดีที่ 14 มีนาคม 2556

อินเตอร์ มิลาน 4:1 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์
(รวม 2นัดเสมอ 4:4 สเปอร์ส เข้ารอบด้วยกฎอเวย์โกล)

สนาม : จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า
ผู้ตัดสิน : อิวาน เบเบ็ค (โครเอเชีย)

เปิดฉากครึ่งแรกมา 2 นาที สเปอร์สมาได้ฟรีคิกทางกราบซ้าย กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน โยนยาวเข้าเขตโทษ นักเตะอินเตอร์ มิลาน โหม่งสกัดออกมาได้
นาที 13 อันโตนิโอ คาสซาโน่ หลุดขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนกระชากบอลปรี่เข้าเขตโทษไปกดด้วยขวาบอลพุ่งตรงตัว แบร๊ด ฟรีเดล รับเข้าซองสบาย
นาที 20 โรดริโก้ ปาลาซิโอ เปิดบอลจากทางด้านขวาไปที่เสาสอง อันโตนิโอ คาสซาโน่ สอดเข้ามาโขกจ่อๆเสียบตาข่ายให้ อินเตอร์ มิลาน ขึ้นนำ สเปอร์สผลบอล 1:0
อีก 2 นาทีต่อมา กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน หลอกยิงจากหน้ากรอบเขตโทษ ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ยังไวพุ่งปัดออกหลังไปได้
นาที 26 อินเตอร์สวนกลับเร็บ โรดริโก้ ปาลาซิโอ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษไปดีดบอลข้ามหัว แบร๊ด ฟรีเดล บอลย้อยไปตกบนหลังคานบอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 37 กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน โยนยาวจากลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาเข้าเขตโทษ ไคล์ วอล์คเกอร์ เทกตัวขึ้นโขกบอลหลุดเสาไกลออกหลังไป
เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ แย่งบอลจากเท้า ฮวน เฮซุส ก่อนพาบอลเข้าเขตโทษไปชิบข้ามหัว ฮันดาโนวิช แต่แรงไปบอลโด่งข้ามคาน จบครึ่งแรก อินเตอร์ มิลาน ยังนำ สเปอร์ส 1:0
มาต่อครึ่งหลัง เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ หลุดเข้าในกรอบเขตโทษทางซ้ายก่อนจ่ายเข้ากลางให้ ยาน แฟร์ทองเก้น ได้ซัดไปติดบล็อกแนวรับเจ้าบ้าน
นาที 52 เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่ แทงทะลุช่องให้ โรดริโก้ ปาลาซิโอ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษทางซ้ายไปซัดผ่านมือ แบร๊ด ฟรีเดล เข้าประตูไป ให้ อินเตอร์ มิลาน หนีห่าง สเปอร์ส ไปอีกเป็น 2:0
นาที 69 อันโตนิโอ คาสซาโน่ ไหลบอลเข้าเขตโทษทางซ้ายให้ ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ได้หลุดเข้าไปซัดมุมแคบ แบร๊ด ฟรีเดล ออกมาปิดมุมเซฟไว้ได้
ช๊อกแฟนไก่ นาที 75 อินเตอร์ มิลาน มาได้ประตูทิ้งไปอีกเป็น 3:0 จากลูกที่ อันโตนิโอ คาสซาโน่ ซัดลูกฟรีคิกไปแฉลบผู้เล่นสเปอร์ก่อนมาโดนหน้าแข้งของ วิลเลี่ยม กัลลาส เข้าประตูตัวเองไป
นาที 85 ไคล์ นอห์ตัน ได้โอกาสสับไกจากหน้ากรอบเขตโทษบอลติดไซด์ก้อย ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช ต้องพุ่งสุดเหยียดปัดออกหลังไปได้ จบ 90 นาที อินเตอร์ มิลาน นำ สเปอร์ส 3:0 รวม 2 นัดเสมอกัน 3:3 ต้องมาสู้กันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ต่อเวลาพิเศษ
นาที 92 ยาน แฟร์ทองเก้น ได้โขกกดลงพื้น ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช เซฟไว้ได้ด้วยขาอย่างหวุดหวิด
นาที 96 เอ็มมานูเอล อเดบายอร์ มาซัดประตูความหวังให้สเปอร์สไล่ อินเตอร์มาเป็น 1:3 รวม 2 นัด สเปอร์ส นำ 4:3
นาที 105 อันโตนิโอ คาสซาโน่ กดด้วยขวาจากหน้ากรอบเขตโทษทางซ้าย แบร๊ด ฟรีเดล กระโดดปัดออกหลังไปได้หวุดหวิด
วิเคราะห์บอลนาที 110 อันโตนิโอ คาสซาโน่ เปิดบอลจากฝั่งซ้ายบอลเลยมาถึงเสาสอง ริคกี้ อัลวาเรซ สอดมาโขกให้ อินเตอร์ มิลาน หนีห่าง สเปอร์ส 4:1
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้น จบเกม 120 นาที อินเตอร์ มิลาน ถล่มชนะ สเปอร์ส 4:1 รวม 2 นัดเสมอกัน 4:4 แต่เป็น สเปอร์ส ที่ผ่านเข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือน
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
อินเตอร์ มิลาน
ผู้รักษาประตู : ซาเมียร์ ฮันดาโนวิช
กองหลัง : โชนาธาน(อันเดรีย ราน็อคเคีย น.107), ฮวน เฮซุส , คริสเตียน คิวู, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ
กองกลาง : วอลเตอร์ การ์กาโน่, เอสเตบัน กัมบิอัสโซ่,มาเตโอ โควาซิช - เฟรดี้ กวาริน(ริคกี้ อัลวาเรซ น.71 )
กองหน้า : โรดริโก้ ปาลาซิโอ , อันโตนิโอ คาสซาโน่
สเปอร์ส ระบบ
ผู้รักษาประตู : แบร๊ด ฟรีเดล
กองหลัง : ไคล์ วอล์คเกอร์ , วิลเลี่ยม กัลลาส (O.G. ), ยาน แฟร์ทองเก้น, ไคล์ นอห์ตัน (สตีเว่น คอลเกอร์ น.104)
กองกลาง : สกอตต์ พาร์เกอร์, เจค ลิเวอร์มอร์ (อาร์ร่อน เลนน่อน น.70)- มุสซ่า เดมเบเล่, กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน
กองหน้า : เจอร์เมน เดโฟ(เลวิส โฮลท์บี้ น.56) , เอ็มมานูเอล อเดบายอร์
อินเตอร์ มิลาน 4:1 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

สรุปผล ยูโรปา ลีก คู่อื่น
- รูบิน คาซาน ชนะ เลบันเต้ 2-0
- เซนิตฯ ชนะ บาเซิ่ล 1-0
- อินเตอร์ มิลาน ชนะ สเปอร์ส (2นัด 4-4 สเปอร์สเข้ารอบกฎประตูทีมเยือน)
- เฟเนร์บาห์เช่ เสมอ วิคตอเรีย พิลเซ่น 1-1
- เชลซี ชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ 3-1 (2นัด เชลซี ชนะ 3-2)
- นิวคาสเซิ่ล ชนะ อันจิ 1-0 (2นัด นิวคาสเซิ่ล ชนะ 1-0)
- บอร์กโดซ์ แพ้ เบนฟิก้า 2-3
- ลาซิโอ ชนะ สตุ๊ตการ์ท 3-1
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

วิเคราะห์บอล แมนฯ ยูไนเต็ด - เรอัล มาดริด


วิเคราะห์บอล แมนฯ ยูไนเต็ด - เรอัล มาดริด 
วิเคราะห์บอล แมนฯ ยูไนเต็ด - เรอัล มาดริด
วิเคราะห์บอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - เรอัล มาดริด
เวลา: 02.45 น.
สนาม: โอลด์ แทรฟฟอร์ด
ผู้ตัดสิน: คูเนต ชาเคียร์ (ตุรกี)
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 2






ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด
2 มี.ค. 56 ชนะ นอริช 4-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
23 มี.ค. 56 ชนะ ควีนส์ปาร์ค 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
19 ก.พ. 56 เร้ดดิ้ง 2-1 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
13 ก.พ. 56 เสมอ เรอัล มาดริด 1-1 (เยือน) แชมเปี้ยนส์ลีก
10 ก.พ. 56 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
เรอัล มาดริด
2 มี.ค. 56 ชนะ บาร์เซโลน่า 2-1 (เหย้า) ลา ลีกา
26 มี.ค. 56 ชนะ บาร์เซโลน่า 3-1 (เยือน) โคปา เดล เรย์
23 ก.พ. 56 ลา คอรุนญ่า 2-1 (เยือน) ลา ลีกา
17 ก.พ. 56 ชนะ ราโย 2-0 (เหย้า) ลา ลีกา
13 ก.พ. 56 เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 (เหย้า) แชมเปี้ยนส์ลีก
ผลการพบกันนัดแรก
13 ก.พ. 56 เรอัล มาดริด 1-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
23 เม.ย. 46 แชมเปี้ยนส์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด 4-3 เรอัล มาดริด
8 เม.ย. 46 แชมเปี้ยนส์ลีก เรอัล มาดริด 3-1 แมนฯ ยูไนเต็ด
19 เม.ย. 43 แชมเปี้ยนส์ลีก แมนฯ ยูไนเต็ด 2-3 เรอัล มาดริด
4 เม.ย. 43 แชมเปี้ยนส์ลีก เรอัล มาดริด 0-0 แมนฯ ยูไนเต็ด
ความพร้อม-สภาพทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด
ผีแดงหมดสิทธิใช้งานฟิล โจนส์ ดาวรุ่งสารพัดประโยชน์ ซึ่งฟิตไม่ทันจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า ขณะที่ พอล สโคลส์ มิดฟิลด์ตัวเก๋า ก็ยังไม่ฟิตกลับมาจากปัญหาเจ็บเข่า และ ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ อีกหนึ่งตัวเลือกในแดนกลาง พักยาวไปนานแล้วเพราะปัญหาสุขภาพ
ริโอ เฟอร์ดินานด์ เซ็นเตอร์แบ็กตัวเก๋า ป่วยเป็นไข้จนพลาดเกมลีกนัดล่าสุด แต่ก็คืนความฟิตกลับมาได้แล้ว ขณะที่จอนนี่ อีแวนส์ ซึ่งได้ลงเล่นในนัดนั้น มีอาการเจ็บเล็กน้อยติดตัวมา จนต้องแยกซ้อมในวันจันทร์ แต่ก็น่าจะฟิตทันลงสนามได้
ส่วนปาทริซ เอฟร่า แบ็กซ้ายตัวหลัก และแดนนี่ เวลเบ็ค กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ซึ่งเจ็บเล็กน้อยมาจากเกมล่าสุด ก็ไม่มีปัญหาในการเรียกความฟิตกลับมา เช่นเดียวกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ดาวยิงตัวเก่ง ซึ่งหายเจ็บสะโพกกลับมาลงเล่นได้ตามปกติแล้ว
ชินจิ คางาวะ มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่น โชว์ฟอร์มสดทำแฮตทริกได้ในเกมล่าสุด น่าจะได้มีส่วนร่วมในเกมนี้ด้วย แต่ต้องลุ้นว่าจะในฐานะตัวจริงหรือเปล่า โดยมี ไรอัน กิ๊กส์ มิดฟิลด์วัยดึก พร้อมเบียดลงเล่นเป็นนัดที่ 1,000 ในอาชีพด้วย
ผู้เล่นบาดเจ็บ: ฟิล โจนส์, พอล สโคลส์, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์
ความพร้อม-สภาพทีม
เรอัล มาดริด
ราชันชุดขาวขนนักเตะฟุตบอลชุดฟูลทีมมาทำศึกนัดนี้ หลังได้ อิเคร์ คาซิญาส ผู้รักษาประตูกัปตันทีม กลับมามีชื่ออยู่ในทีมอีกครั้ง นับตั้งแต่มือหักพักไปร่วมสองเดือน ก่อนจะกลับมาลงซ้อมได้เป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสฯ ทำให้ยังไม่แน่ว่าจะฟิตพอลงเฝ้าเสาได้ในเกมนี้ และ ดิเอโก้ โลเปซน่าจะมีลุ้นได้ทำหน้าที่แทนต่อไป
ส่วน มาร์เซโล แบ็กซ้ายทีมชาติบราซิล ก็มีชื่ออยู่ในทีมชุดนี้ด้วย แต่ระดับความฟิตของเขายังไม่น่าจะเพียงพอกับการลงสนามเช่นกัน หลังจากเพิ่งลงเล่นไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น นับตั้งแต่คัมแบ็กกลับมาจากการพักยาว ทำให้ ฟาบิโอ โคเอนเทรา คงจะได้ลงสนามต่อไป
เกมนี้ โจเซ่ มูรินโญ่ คงจะปรับทัพกลับมาใช้งานนักเตะชุดใหญ่แบบพร้อมหน้าอีกครั้ง หลังลงทุนพักตัวหลักบางคนเอาไว้ในเกมเอล กลาซิโก้ เมื่อสุดสัปดาห์ โดย คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ปีกซูเปอร์สตาร์ คงจะกลับมาเป็นตัวจริงในการเจอกับทีมเก่าอีกครั้ง
ชาบี้ อลอนโซ่ มิดฟิลด์ตัวเก่ง ก็น่าจะมาคุมเกมแดนกลางคู่กับ ซามี่ เคดิร่า อีกครั้ง ส่วน อังเคล ดิ มาเรีย ปีกทีมชาติอาร์เจนตินา ก็น่าจะกลับมาเป็นตัวทำเกมริมเส้นด้วย โดยมี เมซุต โอซิล จะรับหน้าที่มิดฟิลด์จอมทัพเช่นเดิม
วิเคราะห์รูปเกม
แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเจ๊ามาดริดได้ถึงรังในนัดแรกแบบมีประตูทีมเยือนติดมือกลับมาด้วย ทำให้เกมนี้ลดความกดดันลงไปได้พอสมควร แต่ก็ยังคงเป็นงานที่หนักหนาสาหัสอยู่ เพราะผีแดงเคยมีประสบการณ์ในการเจ๊งชัยนัดที่สองในสถานการณ์ที่ได้เปรียบเวลาเจอกับราชันชุดขาวมาแล้ว แถมนัดนี้ทีมเยือนยังมาด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม จากการคว่ำบาร์เซโลน่าลงได้สองนัดติด และสภาพทีมก็เกือบจะสมบูรณ์เต็มร้อย บวกกับคุณภาพในเกมรุกที่อันตรายทุกดอก คงจะป่วนเกมรับของเจ้าบ้านจนหัวบานแน่ เกมนี้ถือว่าสำคัญยิ่งยวดสำหรับทั้งสองทีมและคงจะสู้กันแบบถวายหัว ผีแดงเล่นในรังโอลด์ แทรฟฟอร์ดยังไงก็น่าจะมีฮึด บวกกับเกมรุกก็พร้อมเล่นงานชุดขาวได้เช่นกัน ทำให้นัดนี้มีสิทธิออกทุกหน้าและอาจจะยืดเยื้อถึงฎีกา
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1): ดาวิด เด เกอา; ราฟาเอล, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี่ อีแวนส์, ปาทริซ เอฟร่า; ไมเคิล คาร์ริค, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์; อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เวย์น รูนี่ย์, ชินจิ คางาวะ(แดนนี่ เวลเบ็ค); โรบิน ฟาน เพอร์ซี่
ผู้จัดการทีม: อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เรอัล มาดริด (4-2-3-1): ดิเอโก้ โลเปซ; อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เซร์คิโอ รามอส, เปเป้, ฟาบิโอ โคเอนเทรา; ชาบี้ อลอนโซ่, ซามี่ เคดิร่า; อังเคล ดิ มาเรีย, เมซุต โอซิล, คริสติอาโน่ โรนัลโด้; คาริม เบนเซม่า
โค้ช: โจเซ่ มูรินโญ่
ฮอตสกอร์: เสมอผลบอล 1-1
ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

วันจันทร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2556

โรนัลโด้เบิ้ล!ราชันบุกเฉือนบีโก้ 2:1 ขึ้นที่ 2


โรนัลโด้เบิ้ล!ราชันบุกเฉือนบีโก้2:1ขึ้นที่2+คลิป 
โรนัลโด้เบิ้ล!ราชันบุกเฉือนบีโก้2:1ขึ้นที่2+คลิป

ฟุตบอลลาลีกา สเปน 2012-13

วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2556

เซลต้า บีโก้ 1:2 รีล มาดริด

สนาม : บาไลดอส

ผู้ตัดสิน : ฆาเวียร์ เอสตราด้า เฟอร์นานเดซ



นาที 61 รีล มาดริด มาได้ประตูขึ้นนำเมื่อ โอซิล เปิดลูกเตะมุมมา ฆาบี บาราส ทุบบอลไปเข้าทาง กาเยฆ่อน ยิงสวนเข้ามาแล้วเด้งไปหา โรนัลโด้ ซัดจ่อๆ ขึ้นนำด้วยผลบอล 1:0

นาที 63 เซลต้า บีโก้ ตามตีเสมอทันควัน ออกุสโต้ เฟอร์นานเดซ พาบอลถึงเส้นหลังด้านขวาจ่ายให้ ยาโก้ อัสปาส ยิงแฉลบแข้งมาดริด เปลี่ยนทางเข้าประตู 1:1

นาที 71 ทีมเยือนมาได้จุดโทษจังหวะที่ กาก้า หลุดเข้าเขตโทษทางซ้ายแล้วโดน ฆาบี บาราส เข้าสกัดไม่โดนบอล ฆาเวียร์ เฟอร์นานเดซ ผู้ตัดสินเกมนี้เป่าจุดโทษทันทีและ โรนัลโด้ รับหน้าที่สังหารเข้าไป 2:1

วิเคราะห์บอลจบเกมการแข่งขัน รีล มาดริด บุกมาเอาชนะ เซลต้า บีโก้ ได้ถึงถิ่น 2:1 คว้าสามแต้มสำคัญขยับขึ้นที่สองในตารางคะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เซลต้า บีโก้ ระบบ : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : ฆาบี บาราส
กองหลัง : ฆอนนี่, วาดิม เดมิดอฟ, อันเดรส ตูนเญส, โรแบร์โต้ ลาโก้
กองกลาง : อเล็กซ์ โลเปซ(ดานิเยล พรานยิช น.56), บอร์ฆ่า โอบินญ่า - ออกุสโต้ เฟอร์นานเดซ, เอนริเก้ เด ลูคัส(มาริโอ เบอร์เมโฆ น.60), ไมเคิล โครห์น-เดห์ลี(ปาร์ค ซู ยอง น.81)
กองหน้า : ยาโก้ อัสปาส

รีล มาดริด ระบบ : 4-2-3-1
ผู้รักษาประตู : ดีเอโก้ โลเปซ
กองหลัง : ไมเคิ่ล เอสเซียง, ราอูล อัลบิโอล, เปเป้, มาร์เซโล่
กองกลาง : ซามี่ เคดิร่า(ชาบี อลอนโซ่ น.46), ลูก้า โมดริช - โฆเซ่ กาเยฆ่อน(กาก้า น.66), เมซุต โอซิล, คริสเตียโน่ โรนัลโด้
กองหน้า : คาริม เบนเซม่า(กอนซาโล่ อิกวาอิน น.65)

 Celta de Vigo 1-2 Real Madrid


ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่